| หลักจากเมื่อวานนี้ ตัวแทนชาวบ้านดอนเมือง หลักสี่ กว่า 20 หมู่บ้าน เข้าเสนอข้อเรียกร้อง 6 ข้อต่อ ศปภ. วันนี้ได้มีการนัดหารือติดตามความคืบหน้าข้อเรียกร้องดังกล่าวอีกครั้ง โดยล่าสุด ศปภ.เตรียมรื้อแนวบิ๊กแบ๊ก ที่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก ยาวกว่า 8 เมตรให้รถสัญจรไป-มาได้แล้ว การเจรจาร่วมกัน นานกว่า 2 ชั่วโมง ท่ามกลางข้อโต้เถียง ข้อเสนอแนะ และขอความเห็นใจ ระหว่างนายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เลขานุการคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่สาธารณภัยร้ายแรง ตัวแทนศปภ./ นายชัชวาลย์ ปัญญาวาทีนันท์ รองอธิบดีกรมชลประทาน /นายพันเทพ ศรีวานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และนายแทนคุณ จิตอิสระ ตัวแทนคณะทำงานกทม. พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านหลักหก จังหวัดปทุมธานี เขตดอนเมือง หลักสี่ และชาวอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ถึงความคืบหน้าใน 6 ข้อเรียกร้อง หลังจากเมื่อวานนี้ชาวบ้านได้เสนอต่อศปภ. วันนี้ตัวแทนศปภ.ได้ชี้แจงความคืบหน้าการทำงานกับชาวบ้านว่า ศปภ.ได้ประสานกับภาคเอกชน ในการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำได้กว่า 100 เครื่องแล้ว โดยมีบริษัทปตท.สนับสนุนบัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 6 หมื่นบาท เพื่อใช้เร่งสูบน้ำในคลองเปรมประชากร ลงคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ขณะที่ระดับน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์วันนี้ ล้นตลิ่งเพียงเล็กน้อย โดยจะลดลงวันละ 3-4 เซนติเมตรต่อวัน คาดว่าภายใน 3-4 วัน จะกลับมาอยู่ในระดับตลิ่งได้ ที่สำคัญ ศปภ. เตรียมเปิดแนวบิ๊กแบ็ก บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก หน้าสน.ดอนเมือง ให้ลึกลงถึงพื้นถนนยาว 8 เมตร หลังจากพบว่า ระดับน้ำในถนนวิภาวดีลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการสร้างบิ๊กแบ๊กใต้สะพานแก้วเสร็จแล้วในวันนี้ โดยเหลืออีก 300 เมตร บริเวณคลองหนึ่ง ถึงโชคชัยสเต็กเฮ้าส์ ที่คาดว่าจะต้องใช้เวลากว่า 2-3วัน จึงจะแล้วเสร็จ ซึ่งอาจารย์อานนท์ มั่นใจว่าการเปิดบิ๊กแบ๊กเพิ่มในจุดนี้ จะไม่ส่งผลกระทบพื้นที่ตอนล่างหากเป็นไปตามธรรมชาติ และไม่มีการรื้อบิ๊กแบ๊กในตอนเหนือเกิดขึ้น ส่วนฝั่งขาเข้าต้องรอ กทม. แก้ปัญหาที่สถานีสูบน้ำคลองบางเขนให้แล้วเสร็จก่อนจึงจะเปิดแนวได้ เนื่องจากเกรงว่าหากมีการเปิดแนวบิ๊กแบ๊กตอนนี้อาจทำให้น้ำไหลย้อนกลับเข้าฝั่งหลักสี่อีกครั้ง สำหรับข้อเสนอให้เปิดประตูระบายน้ำที่คลองบ้านใหม่ อาจารย์อานนท์ ยืนยันว่า จะเปิดให้ภายหลังขุดลอกคลอง ระยะ 500-600 เมตร ด้านฝั่งปากเกร็ดแล้วเสร็จ โดยจะเริ่มดำเนินการได้ภายในวันพรุ่งนี้ ซึ่งวันนี้จะประสานกับการประปานครหลวงในการสนับสนุนเครื่องจักร นอกจากนี้ต้องทำความเข้าใจกับชาวปากเกร็ด ในการใช้พื้นที่เป็นเส้นทางผ่านน้ำ ควบคู่กับการเสริมพนังกั้นน้ำตลอดแนวคลอง เพื่อไม่ให้กระทบต่อคนในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้มีชาวบ้านในบางส่วนเกิดความกังวลแล้ว นอกจากการหารือใน 6 ข้อเสนอแล้ว การนัดเจรจาติดตามผลวันนี้ ศปภ.ยังรับข้อเสนอเพิ่ม ทั้งเรื่องการจัดการน้ำในหมู่บ้านเมืองเอก 1 เพื่อลดผระกระทบต่อชุมชนวัดไผ่เขียว การเพิ่มเรือดันน้ำในคลองรังสิต และการระบายน้ำในคลองบางตลาดไว้ เพื่อนำไปหารือในที่ประชุม ศปภ.ต่อไป ขณะชาวบ้านที่เข้าร่วมเจรจาวันนี้ เเม้ล้วนเป็นผู้ประสบภัย แต่สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้ชัด หลังการหารือจบลง คือ การรวมกลุ่มแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างชัดเจนทันทีของชาวบ้าน ในการติดตามการทำงานของหน่วยงานรัฐ ซึ่งนับว่าเป็นแบบอย่างที่ดีต่อชุมชนอื่นในการคิดแก้ปัญหาด้วยความสามัคคี และความเข้มแข็งที่ไม่ย่อท้อต่อโชคชะตา Produced by VoiceTV |