นายกฯสั่งจับตาน้ำท่วมใต้-ปรับเเผนระบายน้ำ กทม. ใหม่

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด นายกรัฐมนตรี สั่ง ปภ.เฝ้าระวังโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสงขลา ส่วนสถานการณ์น้ำใน กทม.และจังหวัดปริมณฑล นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้คณะกรรมการระบายน้ำฯหารือผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัด หาข้อสรุปปรับแนวการระบายน้ำใหม่      นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน ถึงแนวทางการระบายน้ำออกจากกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลในระยะต่อไป ได้มอบหมายให้คณะกรรมการระบายน้ำฯและกรมชลประทาน หารือร่วมกับผู้ว่าฯ กทม. และผู้ว่าราชการจังหวัด อีก 6 จังหวัด เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในการปรับแนวการระบายน้ำใหม่ เพื่อให้สอดคลองกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยแนวทางการบริหารจัดการน้ำใหม่ อาจจะมีการปรับเปลี่ยนแนวการวางบิ๊กแบ๊ก หรือการรื้อถอนบางส่วน เพื่อทำให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้น    ส่วนสถานการณ์น้ำทั่วไปในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายจังหวัดกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เช่นเดียวกับพื้นที่ด้านเหนือของกรุงเทพมหานคร ที่ระดับน้ำลดลงเช่นกัน เนื่องจากทางกรมชลประทานได้เร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้เต็มที่ รวมทั้งน้ำที่ยังค้างทุ่งได้ลดระดับอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเร่งระบายน้ำผ่านคลองรังสิตลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อุทกภัยในภาคใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสงขลา หลังได้รับรายงานว่าปริมาณน้ำฝนในประเทศมาเลเซีย มีสูงกว่าปกติถึงร้อยละ 40 ซึ่งอาจจะไหลเข้าท่วมในพื้นที่จังหวัดสงขลาทางด่านสะเดา ส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เส้นทางสู่ภาคใต้ตอนล่างก็ให้มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษแล้ว พลตำรวจเอกประชา พรหมนอก ผู้อำนวยการ ศปภ. กล่าวว่า หลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันพรุ่งนี้ จะเร่งลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อตรวจดูสถานการณ์น้ำท่วมและนำมาวางแผนในการแก้ปัญหา โดยยืนยันว่า ยังคงมีความจำเป็นต้องมี ศปภ. ต่อไป แม้สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่จะคลี่คลายลงแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้เข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ ศปภ.เช่นกัน    สำหรับข้อเรียกร้องของประชาชนอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ที่ให้เปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์นั้น ศปภ.ได้ส่งหนังสือด่วนแจ้งไปยัง กทม.แล้ว ซึ่งขอให้สอบถามความคืบหน้าจากทาง กทม. ผู้อำนวยการ ศปภ. ระบุว่า การจะเร่งระบายน้ำโดยขาดความรอบคอบอาจทำให้กระทบกับพื้นที่อื่น ซึ่งที่ผ่านมา ศปภ. ไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ทั้งนี้เชื่อว่าภายในต้นเดือนธันวาคมสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ   Produced by VoiceTV

URL: http://news.voicetv.co.th/thailand/24279.html