วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

นายกฯนอร์เวย์ไว้อาลัยเหยื่อวินาศกรรมชาวมุสลิม

ชาวมุสลิมในนอร์เวย์  ต้องการให้ชาวนอร์เวย์มองพวกเขาว่าเป็นส่วนหนึ่งของสังคม แม้ว่าพื้นฐานทางวัฒนธรรมและศาสนาจะแตกต่างกัน ขณะที่ นายกรัฐมนตรีนอร์เวย์ เข้าร่วมพิธีไว้อาลัยชาวมุสลิม 2 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุวินาศกรรม

 

นายเจนส์ สโตลเตนเบิร์ก นายกรัฐมนตรีนอร์เวย์ เดินทางไปยังมัสยิดกลางกรุงออสโล เพื่อไว้อาลัยให้แก่เยาวชนมุสลิม 2 คน คือ บาโน ราชิด วัย 18 ปี ที่อพยพมาจากอิรักพร้อมกับครอบครัวของเธอตั้งแต่ปี 2539 และ อิสมาอิล ฮาจิ อาเหม็ด วัย 19 ปี   ซึ่งทั้งสองเสียชีวิตจากเหตุกราดยิงบนเกาะอูเทอยา



โดยนายสโตลเตนเบิร์กกล่าวว่า เขาขอแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของเยาวชนทั้งสองคน  จากเหตุการณ์นี้ ผู้เสียชีวิตทั้งสองคนได้ให้นิยามคำว่าชาวนอร์เวย์ใหม่ โดยพวกเราคือชุมชนเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติใด เพศใด หรือเป็นใครก็ตาม พวกเราคือชาวนอร์เวย์เหมือนกันทุกคน และเขาก็รู้สึกภูมิใจที่เป็นเช่นนั้น เพราะรากฐานของประเทศนอร์เวย์คือประชาธิปไตย  มนุษยธรรม และความเปิดกว้าง ดังนั้นเราต้องอดกลั้นต่อความแตกต่าง การวิพากษณ์วิจารณ์ แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่พอใจต่อการกระทำของเราก็ตาม

หลังจากพิธีไว้อาลัยสิ้นสุดลง ชาวมุสลิมหลายร้อยคนเดินทางจากมัสยิด ไปยังวิหารกลางกรุงออสโล เพื่อวางดอกไม้ไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุวินาศกรรมทั้งหมด 77 คน โดยเลขาธิการทั่วไปของสภาอิสลามแห่งนอร์เวย์กล่าวว่า แม้ว่าแต่ละคนจะมีพื้นฐานทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน นับถือศาสนาไม่เหมือนกัน แต่เราทุกคนก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน ดังนั้น พวกเขาจึงมาที่นี่ เพื่อมาแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงชนกลุ่มน้อยในประเทศนอร์เวย์ แต่พวกเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ซึ่งเมื่อเกิดเหตุวินาศกรรมขึ้น พวกเขาก็รู้สึกได้รับผลกระทบโดยตรงไม่ต่างจากชาวนอร์เวย์

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของไทย เปิดเผยผ่านเว็บไซต์ว่า ในเหตุกราดยิงบนเกาะอูเทอยานั้น มีคนไทยสัญชาตินอร์เวย์เสียชีวิต 1 รายด้วย คือนางสาวภรทิพย์ อดัม อายุ 21 ปี โดยทางการนอร์เวย์เพิ่งยืนยันการเสียชีวิตของเธอกับครอบครัวไปเมื่อวานนี้  และในวันนี้ เอกอัครราชทูตไทยประจำนอร์เวย์ และเจ้าหน้าที่  จะเดินทางไปวัดไทยนอร์เวย์  เพื่อร่วมทำบุญครบรอบ 7 วัน แก่ผู้เสียชีวิตทั้งหมดรวมถึงนางสาวภรทิพย์ด้วย

Produced by VoiceTV