รายงานพิเศษ ชุด "ขอคืนความยุติธรรม" เสนอวันนี้เป็นตอนแรก โดยจะเริ่มต้นด้วยกรณีของนายธนูศิลป์ ธนูทอง ผู้บริสุทธิ์ที่ตกเป็นจำเลยในคดีเผาศาลากลาง จ.อุบลราชธานี
ที่ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องพร้อมกับจำเลยอีก 8 คน เขาต้องถูกคุมขังนานกว่า 1ปี 3เดือนโดยที่ไม่มีความผิด เพราะในวันเกิดเหตุเค้าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ถือเป็น "แพะ" อีกคนหนึ่งของกระบวนการยุติธรรมไทย
คำพิพากษายกฟ้องนายธนูศิลป์ ธนูทอง จำเลยในคดีเผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี คือสิ่งที่นางดอกจันทร์ ธนูทอง ภรรยาของนายธนูศิลป์คาดหวังไว้ เพราะนั่นหมายถึงอิสรภาพที่พวกเค้ารอคอยมากว่า 1ปี 3เดือน อาหารมื้อแรกนอกเรือนจำเช้านี้ มีหน่อไม้ต้ม น้ำพริก ยำปลากระป๋อง และข้าวเหนียว ซึ่งถือเป็นงานเลี้ยงต้อนรับกลับบ้านแบบเล็กๆ ที่มีความสุขมหาศาลของทั้ง 3คน หลังอาหารมื้อเช้า "สปาย" ลูกชายคนเล็กวัย 10ปี รบเร้าให้พ่อสอนการบ้าน นายธนูศิลป์จึงกลับมาทำหน้าที่ครูประจำบ้านอีกครั้ง ซึ่งในช่วงที่นายธนูศิลป์ถูกคุมขังในเรือนจำ สปายขาดเรียนบ่อยมาก เพราะไม่มีคนไปรับไปส่ง เนื่องจากบ้านอยู่ห่างจากโรงเรียนกว่า 10 กิโลเมตร และนางดอกจันทร์ขับรถจักรยานยนต์ไม่ได้
นายธนูศิลป์ ยอบรับจะเป็นคนเสื้อแดงในกลุ่มชักธงรบของ จ.อุบลราชธานี และร่วมเรียกร้องประชาธิปไตยมาตลอด เพราะไม่ชอบระบบสองมาตรฐาน แต่เค้าก็ยืนยันว่าไม่ใช่คนเผาศาลากลางจังหวัด เพราะในวันเกิดเหตุเค้าและภรรยาปลูกมันสัมปะหลังอยู่ในไร่ทั้งวัน
การนั่งสมาธิและไม่คิดถึงข้อกล่าวหาร้ายแรง คือสิ่งที่ทำให้นายธนูศิลป์ มีชีวิตรอคอยความยุติธรรมมาจนถึงวันปล่อยตัว แต่เค้ายอมรับว่าหลายครั้งก็อดห่วงภรรยาและลูกที่ต้องอยู่ตามลำพังกลางป่าไม่ได้ จนบางคืนนอนร้องไห้อยู่คนเดียว เพราะไม่รู้ว่าหากต้องรับโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต ภรรยาและลูกจะอยู่กันอย่างไร สิ่งที่นายธนูศิลป์ต้องการเรียกร้องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คืออยากให้เจ้าหน้าที่รัฐมีความรอบคอบ และให้ความยุติธรรมแก่ประชาชนมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมามีผู้บริสุทธิ์ตกเป็นจำเลยในคดีอาญาหลายคน ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ผู้กระทำความผิด เพียงแค่พวกเค้าเหล่านั้นมีฐานะยากจน การศึกษาน้อย และไม่มีเส้นสายในสังคมอย่างชนชั้นนำทั่วไป
Produced by VoiceTV
|