วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ลดเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯหนุนโซฮอล์

คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน มีมติลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพื่อดึงให้ผู้บริโภคใช้แก๊สโซฮอล์เพิ่ม โดยให้มีผลในวันพรุ่งนี้ (31ส.ค.54)

 

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการแก้ปัญหาส่วนราคาน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ว่า ภายหลังการลดเก็บภาษีเข้ากองทุนน้ำมัน ทำให้ขณะนี้ราคาน้ำมันเบนซินและโซฮอล์มีส่วนต่างไม่มากนัก คือประมาณ 1 บาท 25 สตางค์ ซึ่ง คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงานไปดูแลและรักษาระดับส่วนต่างราคาให้มากกว่า 2 บาทต่อลิตร เพื่อดูแลผู้ใช้แก๊สโซฮอล์ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก ขณะเดียวกัน จะยังส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนเช่นเดิม พร้อมหารือผู้ประกอบการลดราคาสินค้า

 

ส่วนกรณีที่มีปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 200 หรือ 2 เท่านั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ มองว่า เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ โดยคาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ วันนี้ยังไม่มีการหารือการปรับขึ้นภาษีบาปเพื่อนำมาชดเชยกองทุนน้ำมัน  ขณะเดียวกันอยากให้ราคาสินค้าทยอยปรับลดราคาลง โดยจะหารือกับผู้ประกอบการ ทั้งนี้ หมวดสินค้าที่จะปรับลด คือสินค้าที่ประชาชนใช้ในชีวิตประจำวันเป็นหลัก


ขณะที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ปรับโครงสร้างราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์เพื่อทำให้มีราคาที่ถูกกว่าน้ำมันกลุ่มเบนซิน จูงใจให้เกิดการใช้แก๊สโซฮอล์มากขึ้น โดยปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ลง 1 บาทต่อลิตร จากเดิมจัดเก็บอยู่ 2.40 บาทต่อลิตรเหลือเป็น 1.40 บาทต่อลิตร ส่วนน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ต้องชดเชยราคาเป็น 1.40 บาทต่อลิตร จากเดิมต้องจัดเก็บเข้ากองทุนน้ำมันฯอยู่ลิตรละ 10 สตางค์ และ น้ำมันแก๊สโซฮอล์อี 20 ปรับเพิ่มอัตราชดเชยราคาอีก 1.50 บาทต่อลิตร เป็น 2.80 บาทต่อลิตร 


ซึ่งภายหลังการปรับอัตราดังกล่าว จะมีผลทำให้ราคาน้ำมันเบนซิน 91 มีราคาเท่ากับน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 และน้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ถูกกว่า น้ำมันเบนซิน 91 ลิตรละ 3 บาท  4 สตางค์ส่วนน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20 จะถูกกว่าน้ำมันเบนซิน 91 ลิตรละ 4 บาท 54 สตางค์ โดยกองทุนน้ำมันฯ จะมีรายรับจากกลุ่มเบนซินเหลือเดือนละ 10 ล้านบาทจากเดิมมีรายรับอยู่ 464 ล้านบาท ต่อเดือน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้(31ส.ค.54)

 

Produced by VoiceTV