| วันที่ 1 กันยายน ถือเป็นวันชาติของลิเบีย ซึ่งเป็นผลมาจากการที่พันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี ปฏิวัติโค่นล้มระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชได้สำเร็จ แต่ในปีนี้ วันชาติของลิเบียคงไร้เงาของพันเอกกัดดาฟี เป็นครั้งแรกในรอบ 42 ปี กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส กำลังจะกลายเป็นสถานที่ต้อนรับการประชุมที่สำคัญอีกครั้งในประวัติศาสตร์ เมื่อตัวแทนจาก 60 ประเทศ รวมถึงจีนและรัสเซีย ซึ่งนำโดยนายนิโกลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษพร้อมด้วยสหประชาชาติ จะเข้าร่วมการประชุม "มิตรแห่งลิเบีย" เพื่อหารือเรื่องการบูรณะการเมืองและเศรษฐกิจของลิเบีย โดยจะต้องหลีกเลี่ยงความผิดพลาดเหมือนที่เกิดขึ้นในประเทศอิรัก
รวมถึงเปิดโอกาสให้คณะกรรมาธิการเปลี่ยนผ่านแห่งชาติลิเบียเสนอแผนการของคณะกรรมาธิการฉบับร่าง ซึ่งรวมถึงรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แผนจัดการเลือกตั้งภายใน 18 เดือน และแผนการป้องกันการตอบโต้จากฝ่ายสนับสนุนพันเอกกัดดาฟี ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดตัวว่า คณะกรรมาธิการเปลี่ยนผ่านแห่งชาติ เป็นรัฐบาลเฉพาะกาลที่ชอบธรรมของลิเบียอย่างเป็นทางการ
แม้ในวันนี้ พันเอกกัดดาฟี จะเป็นผู้ที่ถูกประชาชนขับไล่ออกจากตำแหน่ง แต่เมื่อ 42 ปีที่แล้ว พันเอกกัดดาฟี คือคนที่ขับไล่และโค่นล้มระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ซึ่งปกครองประเทศลิเบียมาถึง 18 ปี นับจากได้รับอิสรภาพจากเจ้าอาณานิคมอิตาลี
โดยในวันที่ 1 กันยายน 2512 นายทหารระดับล่างกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง ซึ่งนำโดยร้อยเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี ในวัย 27 ปี ก่อการปฏิวัติโค่นล้มกษัตริย์อิดริสที่ 1 โดยไร้การนองเลือด ในระหว่างที่พระองค์เดินทางไปพักรักษาพระวรกายที่ประเทศตุรกี และถอดถอนมกุฏราชกุมารออกจากตำแหน่ง และนำตัวไปกักขังไว้
ก่อนจะประกาศล้มเลิกระบบราชวงศ์ และเปลี่ยนราชอาณาจักรลิเบียเป็นสาธารณรัฐอาหรับลิเบีย ซึ่งมีร้อยเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี ที่ขณะนั้นเลื่อนยศตัวเองเป็นพันเอกแล้ว เป็นผู้นำสูงสุดของประเทศ ควบคุมหน่วยงานทุกหน่วยงาน ตั้งแต่กองทัพบก ตำรวจ รวมถึงประธานสภาปฏิวัติ ซึ่งประกอบด้วยนายทหาร 12 คน ทำหน้าที่บริหารประเทศ
จากนั้นเป็นต้นมา วันที่ 1 กันยายนของทุกปี จึงได้รับการประกาศให้เป็นวันปฏิวัติและวันชาติของลิเบีย ที่มีการเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ทุกปี แต่ปีนี้คือปีแรก ที่ประเทศลิเบียจะผ่านพันวันชาติ โดยไม่มีพันเอกกัดดาฟีในฐานะประมุขสูงสุดของประเทศอย่างเช่นปีก่อนๆ อีกแล้ว Produced by VoiceTV | 
