วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ชาวเอกวาดอร์รำลึก1ปี ประธานาธิบดีถูกจับเป็นตัวประกัน

ชาวเอกวาดอร์รำลึก1ปี ประธานาธิบดีถูกจับเป็นตัวประกัน

ชาวเอกวาดอร์นับแสนคน เดินขบวนในกรุงกีโต ประเทศเอกวาดอร์ เพื่อให้กำลังใจประธานาธิบดี เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีที่ตำรวจก่อเหตุจลาจล และจับตัวประธานาธิบดีเป็นตัวประกัน

 

กลุ่มผู้สนับสนุนนับแสนคนของนายราฟาเอล โกเรอา ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของเอกวาดอร์ รวมตัวกันยามค่ำคืนท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย โบกธงและป้ายให้กำลังใจนายโกเรอา ในโอกาสครบรอบ 1 ปีที่ตำรวจเอกวาดอร์ก่อการจลาจล และจำตัวนายโกเรอาเป็นตัวประกันที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

 

โดยนายราฟาเอล โกเรอา ได้ปราศรัยท่ามกลางประชาชนจำนวนมากว่า พวกเราจะต้องไม่ลืมว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวันที่ 30 กันยายนปีที่แล้ว เราต้องไม่ลืมว่าใครอยู่เบื้องหลังตำรวจที่กระด้างกระเดื่องเหล่านั้น

 
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 กันยายนของปีที่ผ่านมา ตำรวจจำนวนหนึ่งได้ประท้วงการตัดลดโบนัสและสวัสดิการของข้าราชการ ด้วยการเผายางตามถนน จากนั้นนายโกเรอาจึงได้เดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเข้าถึงล้อมโดยตำรวจ 
 
จนเขาต้องหลบนี้ไปยังโรงพยาบาลที่ถูกใกล้เคียง แต่โรงพยาบาลดังกล่าวก็ถูกปิดล้อมโดยตำรวจ โดยมีนักแม่นปืนประจำอยู่บนหลังคา ทำให้นายโกเรอาเปรียบเสมือนเป็นตัวประกันอยู่ภายในอาคารหลังนั้น จนมีหน่วยคอมมานโดฝ่าด่านปิดล้อมเข้ามาช่วยเหลือนายโกเรอาออกไปได้
 
การประท้วงในครั้งนั้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 8 ราย และนายโกเรอาได้ประณามการประท้วงของตำรวจในครั้งนั้น ว่าเป็นความพยายามในการก่อรัฐประหาร ทำให้ในขณะนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับตำรวจก็ยังคงตึงเครียด จนทหารต้องเข้ารับผิดชอบการรักษาความปลอดภัยบริเวณรัฐสภาและจุดสำคัญอื่นๆ ซึ่งปกติต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจ
 
นายเฮอร์นาน เรเยส นักวิเคราะห์การเมืองของเอกวาดอร์ เชื่อว่า เหตุความรุนแรงเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้ชาวเอกวาดอร์หวนนึกถึงความไร้เสถียรภาพทางการเมืองของเอกวาดอร์ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2540 ถึง 2548 ที่มีการโค่นล้มอำนาจประธานาธิบดีเกิดขึ้นหลายครั้ง
 
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านของนายโกเอราเชื่อว่า เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างสถานการณ์ของนายโกเอราเอง ด้วยการร่วมมือกับนายฮูโก ชาร์เวซ ผู้นำของเวเนซุเอลา เพื่อให้นายโกเอราสามารถใช้มาตรการแบบอำนาจนิยมในประเทศได้
 
ทั้งนี้ นายราฟาเอล โกเอรา ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในปี 2549 โดยเขามีนโยบายสำคัญในการสร้างประเทศให้เป็น "ระบบสังคมนิยมของศตวรรษที่ 21" และสนับสนุนให้เกิด "การปฏิวัติของพลเมือง" เพื่อช่วยเหลือคนยากไร้ ลดอำนาจของชนชั้นนำ รวมถึงขยายการควบคุมของรัฐไปยังภาคเศรษฐกิจสำคัญๆ เช่น น้ำมันและเหมืองแร่
ซึ่งทันทีที่เขาได้รับตำแหน่ง เขาก็ได้สนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเพิ่มอำนาจให้กับฝ่ายบริหาร ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ เอื้อประโยชน์ให้เขาชนะการเลือกตั้งในปี 2552 อย่างง่ายดาย และเปิดโอกาสให้เขาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2556
 
Produced by VoiceTV