กรมควบคุมโรคชี้ มีผู้ป่วยเรื้อรังกว่า 5 ล้านคนได้รับผลกระทบน้ำท่วม
กรมควบคุมโรคคาดมีผู้ป่วยเรื้อรัง 5 ล้านคนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แนะวิธีปฏิบัติตัวของผู้ป่วยเรื้อรัง ก่อนโรคทวีความรุนแรง
นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในภาวะภัยพิบัติน้ำท่วมในประเทศไทย กรมควบคุมโรค ประมาณการมีผู้ป่วยเรื้อรัง 5 โรค - ความดันโลหิตสูง - เบาหวาน - หัวใจขาดเลือด - อัมพฤกษ์อัมพาต - โรคหอบหืด
โดยประชาชนกว่า 5 ล้านคน ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงสูงมากที่โรคจะกำเริบ หรือรุนแรงมาก ได้แก่ 1. กลุ่มที่ขาดยาและควบคุมโรคไม่ได้ก่อนน้ำท่วม ซึ่งเข้าไปนอนรักษาในโรงพยาบาลบ่อย ๆ 2. กลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 70 ปี ซึ่งมีโรคประจำตัว
ทำให้โรคเหล่านี้มีความรุนแรงขึ้นจนเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว อัมพาตทันที ระบบหายใจล้มเหลว ภาวะวิกฤตความดันโลหิตสูง ภาวะวิกฤตเบาหวาน และโอกาสสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อง่าย
สาเหตุที่ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นมาจากภาวะความเครียด การขาดความสามารถปรับจัดการโรคในภาวะวิกฤตด้วยตนเอง การขาดยา และความลำบากในการเข้าถึงบริการเมื่อจำเป็น เป็นต้น ดังนั้น กรมควบคุมโรค ขอแนะนำแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังในพื้นที่ประสบอุทกภัย 7 ข้อ ดังนี้
1.อพยพออกจากพื้นที่ประสบภัย เพื่อได้รับความช่วยเหลือง่าย ควรไปอยู่กับญาติในพื้นที่น้ำไม่ท่วมมากกว่าอยู่ศูนย์พักพิง หากอยู่ที่ศูนย์พักพิงควรแจ้งเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์พักพิงในกรณีที่ท่านมีโรคประจำตัว 2.ควรนำยาที่ใช้อยู่เป็นประจำติดตัวมาด้วย จัดเก็บยาในภาชนะที่เหมาะสม และรับประทายยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และพกบัตรประจำตัวผู้ป่วยหรือบัตรแสดงตัวที่มี เลขประจำตัว 13 หลัก ติดตัวตลอดเวลา 3.ควรเคลื่อนไหวร่างกายอย่างเหมาะสมและฝึกหายใจ คลายเครียด โดยหายใจเข้าลึกและผ่อนคลายลมหายใจออกช้าๆ ประมาณ 15 ครั้งต่อนาที ทำวันละ 3 ครั้งๆ ละ 10 นาที เช้า กลางวัน เย็น หลังอาหาร ครึ่งชั่วโมง 4.ให้ผู้ป่วย ญาติ สังเกตอาการเตือนของโรคที่จะนำไปสู่ภาวะวิกฤติของโรคอย่างต่อเนื่อง หากพบมีความผิดปกติ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ภายในศูนย์พักพิง 5.ผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ญาติควรนำยาที่ใช้อยู่เป็นประจำติดตัวมาด้วย จัดเก็บยาในภาชนะที่เหมาะสม พร้อมดูแลให้รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และควรพลิกร่างกายผู้ป่วย อย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง ตรวจดูการเกิดแผลกดทับอย่างสม่ำเสมอ และควรติดป้ายแสดงรายละเอียดไว้ให้กับผู้ป่วย โดยต้องมีรายละเอียดดังนี้ ชื่อผู้ป่วยและญาติที่สามารถติดต่อได้ โรคที่ป่วย และยาที่จำเป็นต้องใช้ 6.ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องการทำสาธารณประโยชน์ ไม่ควรหักโหม ควรทำกิจกรรมที่เหมาะสม เช่น การบรรจุถุงยังชีพ การประกอบอาหาร หลีกเลี่ยงการบรรจุกระสอบทราย เป็นต้น 7.ผู้เป็นเบาหวาน ควรระวังการเกิดแผล โดยเฉพาะที่เท้า และใส่รองเท้าป้องกันน้ำเมื่อต้องลุยน้ำ
นายแพทย์พรเทพ กล่าวต่อไปว่า ผู้ป่วยหรือญาติควรตรวจสอบยาที่ตนเองรับประทานประจำอยู่ว่าเพียงพอหรือไม่ และต้องมียารับประทานอย่างน้อย 1-2 เดือน หากสุ่มเสี่ยงจะขาดยาควรติดต่อหน่วยพยาบาลก่อนยาหมด 4-5 วัน เพื่อให้เวลาในการประสานจัดหา และควรรู้จุดที่จะสามารถไปรับยาหรือประสานการรับยาเบื้องต้นได้ หากมีข้อสงสัยติดต่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยพยาบาลในศูนย์พักพิงหรือที่ใกล้ที่สุด หรือศูนย์บริการข้อมูลฮ็อตไลน์ กระทรวงสาธารณสุข โทร. 1422 และหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ช่วยผู้ประสบภัยสาธารณสุข โทร. 1669
Produced by Voice TV |