วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เผยสถิติไฟช็อตตายช่วงน้ำท่วมเพิ่มขึ้น 6 เท่าตัวใน 1 เดือน

เผยสถิติไฟช็อตตายช่วงน้ำท่วมเพิ่มขึ้น 6 เท่าตัวใน 1 เดือน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ห่วงผู้ประสบภัยในชุมชนเมืองและกทม. ถูกไฟฟ้าช็อต หลังพบสถิติตายเพิ่มขึ้นรวดเร็วเกือบ 6 เท่าตัวภายใน 4 สัปดาห์

 

ด้านอธิบดีกรมควบคุมโรค แนะชุมชนให้ปิดป้ายเตือนประชาชนไม่ให้เดินหรือพายเรือเข้าใกล้บริเวณที่มีสายไฟห้อยต่ำใกล้น้ำท่วม

        

นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า จากข้อมูลผู้เสียชีวิตหลังจากเกิดน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคมจนถึงวันนี้ (30 ตุลาคม 2554) มีรายงานผู้เสียชีวิตทั้งหมด 366 ราย กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้สำนักระบาดวิทยา วิเคราะห์สาเหตุพบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 86 มาจากการจมน้ำ รองลงมาได้แก่ ไฟฟ้าช็อตร้อยละ 6 ได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เร่งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันการจมน้ำและการถูกไฟฟ้าช็อต โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเมืองย่านปทุมธานี นนทบุรี และกทม. ซึ่งเป็นชุมชนในเขตเมือง เนื่องจากส่วนใหญ่ยังอยู่ในบ้าน ไม่ยอมให้ตัดไฟ จึงขอให้ผู้ประสบภัยทุกคน ระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัย

       

นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการวิเคราะห์สาเหตุการเสียชีวิตของผู้ประสบอุทกภัย พบว่า นอกจากการจมน้ำที่ทำให้เสียชีวิตมากที่สุดแล้ว ที่น่าห่วงอย่างยิ่งคืออันตรายจากไฟฟ้าช็อต ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 6 เท่าตัวภายใน 4 สัปดาห์ โดยสำนักระบาดวิทยาวันที่ 21 กันยายน 2554 รายงานพบผู้เสียชีวิตจากไฟฟ้าช็อต 4 ราย และเพิ่มเป็น 23 รายในวันที่ 21 ตุลาคม 2554 แนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากขณะนี้น้ำเข้าท่วมในเขตชุมชนเมืองและกทม.ซึ่งมีคนอยู่หนาแน่น ส่วนใหญ่ยังใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน

       

การเสียชีวิตเกิดจากสัมผัสกับอุปกรณ์ไฟฟ้าในขณะที่ตัวเปียก เช่น ตู้เย็น ปลั๊กไฟ ปั๊มน้ำ ชาร์ตสายไฟโทรศัพท์มือถือ หรือสัมผัสกับวัสดุหรืออุปกรณ์ที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า เช่น การใช้เรือเหล็ก การเปิดประตูลูกกรงเหล็ก การใช้ไม้หรือไม้พายที่เปียกน้ำไปสัมผัสกับสายไฟ หรืออยู่ในรัศมีของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกิดไฟรั่ว

        

 นายแพทย์พรเทพกล่าวต่อว่า ในการป้องกันไฟฟ้าช็อต ขอแนะนำให้ชุมชนสำรวจว่ามีสายไฟแรงสูงที่ใดบ้างที่ห้อยต่ำใกล้ระดับน้ำท่วมถึง และปิดป้ายเตือนประชาชนไม่ให้เดินหรือพายเรือเข้าใกล้บริเวณนั้น ห้ามใช้และสัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดขณะที่ตัวเปียกชื้น หรือยืนอยู่บนที่ชื้นแฉะหรือตัวแช่อยู่ในน้ำ กรณีน้ำท่วมบ้านชั้นเดียว ให้รีบตัดกระแสไฟฟ้าโดยยกสะพานไฟขึ้นและงดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด หากเป็นบ้าน 2 ชั้นให้ตัดกระแสไฟฟ้าชั้นล่าง และใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเฉพาะชั้นบนของบ้านเท่านั้น นอกจากนี้ เครื่องไฟฟ้าที่ย้ายไม่ทันและถูกน้ำท่วมไปแล้ว ควรหยุดใช้งานจนกว่าจะได้รับการตรวจสอบสภาพ หากพบเสาไฟฟ้าขาด เสาล้ม สายไฟฟ้าขาด หรือแช่อยู่ในน้ำอย่าเข้าใกล้ ต้องรีบแจ้งการไฟฟ้าที่อยู่ในพื้นที่รีบแก้ไขโดยด่วน

        

ในการช่วยเหลือผู้ที่ถูกไฟฟ้าช็อต จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้บาดเจ็บไม่ได้สัมผัสกับสายไฟฟ้าหรือตัวนำไฟฟ้าใดๆ และตัดวงจรไฟฟ้าก่อนเข้าไปช่วย โดยผู้ที่เข้าไปช่วยร่างกายต้องไม่เปียกชื้น ไม่เปียกน้ำ ยืนบนที่แห้ง และสวมรองเท้า ไม่สัมผัสตัวผู้ที่ถูกไฟฟ้าช็อตโดยตรง ให้ใช้ผ้าแห้งหรือเชือกดึงตัวออกมาจากจุดเกิดเหตุโดยเร็ว แล้วรีบปฐมพยาบาล ถ้าหยุดหายใจให้เป่าปากช่วยหายใจ หากคลำชีพจรไม่ได้ให้นวดหัวใจ และรีบส่งโรงพยาบาลทันที หรือขอความช่วยเหลือหน่วยแพทย์ฉุกเฉินหมายเลข 1669 แต่หากไม่มีความรู้ในการตัดกระแสไฟฟ้าหรือวิธีการช่วยเหลือที่ถูกต้องให้รีบตามคนมาช่วย

 

Source :News Center / thannews / AFP (Image)