วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554

'กิตติรัตน์'ไฟเขียวส่งออกสุกร

'กิตติรัตน์'ไฟเขียวส่งออกสุกร

'กิตติรัตน์'ไฟเขียวส่งออกสุกรมีชีวิต หลังราคาภายในประเทศปรับตัวลดลง เผยหากราคาหน้าฟาร์มต่ำมากผู้เลี้ยงเดือดร้อน ต้องดูทั้งระบบควบคู่กันไป

         

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าจากการที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ประกาศราคาควบคุมสุกรทั้งระบบ รวมถึงห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตด้วย เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2554 คิดว่าขณะนี้ถึงเวลาที่จะปล่อยให้มีการส่งออกสุกรมีชีวิตได้อย่างเสรีตามปกติ เพราะว่าสถานการณ์ราคาเนื้อสุกรถึงมือผู้บริโภคปรับตัวลดลงผู้บริโภคไม่ได้รับความเดือดร้อนมากแล้ว หากราคาสุกรในประเทศลดลงมาก ผู้เลี้ยงจะได้รับความเดือดร้อน เพราะฉะนั้นเมื่อสถานการณ์ภายในประเทศคลี่คลายลงก็น่าจะยกเลิกมาตรการควบคุมบางมาตรการไม่ใช่ว่ากระทรวงพาณิชย์ดูแลแต่ผู้เลี้ยงหรือนายทุน ที่ผ่านมาผู้บริโภคร้องว่าต้องบริโภคเนื้อสุกรราคาแพงก็ได้ออกมาตรการเพื่อไม่ให้ราคาสูงจนเกินไป แต่ขณะนี้ราคาสุกรปรับตัวลดลง จำเป็นต้องผ่อนปรนบางมาตรการ เพื่อให้อุตสาหกรรมอยู่ได้ทั้งระบบทั้งผู้เลี้ยง ผู้บริโภค

        

ทั้งนี้มติกกร.เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2554 ได้ประกาศราคาควบคุมสุกรทั้งระบบทั้งสุกรมีชีวิตและสุกรหน้าเขียง แยกเป็นรายภาคกล่าวคือภาคกลาง ตะวันออก ตะวันตก ให้จำหน่ายสุกรมีชีวิตไม่เกินกก.ละ 81 บาท ขายปลีกสุกรเนื้อแดง ไหล่ สะโพกไม่เกิน 152 บาท ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มกก.ละ 85 บาท ขายปลีกไม่เกินกก.ละ 157 บาท ภาคใต้สุกรมีชีวิตกก.ละ 87 บาท ขายปลีกไม่เกินกก.ละ 162 บาท

         

พร้อมกำหนดเงื่อนไขการส่งออกสุกรมีชีวิต คือผู้ประกอบการส่วนกลางต้องขออนุญาตส่งออกสุกรจากเลขาธิการกกร.หรืออธิบดีกรมการค้าภายในก่อนจึงจะส่งออกได้ ส่วนผู้ประกอบการในภูมิภาคต้องขออนุญาตผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการส่วนจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการก่อนการส่งออก

        

นายประพันธ์ ตั้งจารุวัฒนชัย นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกร จังหวัดนครปฐม กล่าวว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลควรอนุญาตให้ส่งออกสุกรมีชีวิตได้ เพราะขณะนี้ปริมาณสุกรอยู่ในภาวะล้นตลาดแล้ว สาเหตุเนื่องจากการระบาดของโรคลดลง ผู้เลี้ยงสุกรที่สามารถเลี้ยงแล้วอัตรารอดสูงในช่วงที่เกิดโรคระบาดมีกำไรจากการเลี้ยงจึงขยายปริมาณการเลี้ยงเพิ่มขึ้น ขณะนี้สุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มลดลงเหลือกก.ละ 62-63 บาทเท่านั้น หรือลดลงกก.ละเกือบ 20 บาท เพียงช่วงเวลาไม่ถึง 2 เดือน และสุกรน้ำหนักเกิน 100 กก.เวลานี้อยู่ในภาวะล้นตลาด

         

อย่างไรก็ดีแม้ว่าสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มจะลดลงเหลือกก.ละ 62-63 บาท แต่ปรากฏว่าราคาสุกรชำแหละหรือสุกรหน้าเขียงยังคงอยู่ระดับสูงเช่นที่จังหวัดนครปฐม ยังจำหน่ายสูงถึงกก.ละ 140 บาท ขณะที่ราคาแนะนำของกรมการค้าภายในเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2554 กรุงเทพฯ ภาคกลาง ภาคตะวันตก ภาคตะวันออก ไม่เกินกก.ละ 130 บาท ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกก.ละ 135 บาท ภาคใต้กก.ละ ไม่เกิน 140 บาท เพราะฉะนั้นกรมการค้าภายในต้องเข้าไปตรวจสอบสุกรหน้าเขียงด้วยว่าทำไมยังไม่ลงทั้งยังขายแพงกว่าราคาแนะนำ ทั้งนี้ราคาสุกรหน้าฟาร์มกก.ละ62-63 บาท สุกรหน้าเขียงควรอยู่ที่กก.ละ 125 บาท ผู้ค้าก็มีกำไรแล้ว

         

แหล่งข่าวกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้มีการประชุมกกร.ชุดใหญ่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในไปศึกษาทบทวนผ่อนปรนมาตรการควบคุมสุกรทั้งระบบ ทั้งการเคลื่อนย้ายและการส่งออก โดยน่าจะเห็นความชัดเจนและผ่อนปรนได้หลังเทศกาลเจ เพราะประชาชนกลับมาบริโภคเนื้อสุกรตามปกติแล้ว

         

Source : News Center / Thannews / VoiceTV (Image)