ระบายน้ำสู่เจ้าพระยา ความหวังหรือแสงปลายอุโมงค์
แก้ไขปัญหาน้ำท่วมของกทม. ด้วยการเร่งระบายน้ำจากคูคลอง ลงสู่เจ้าพระยา ที่เชื่อว่าจะบรรเทาความทุกข์ของคนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะพื้นที่ตอนเหนือ
ปัญหาน้ำจากคลองรังสิต ไหลทะลักเข้าท่วมถนนวิภาวดี ทั้งขาเข้าและขาออก จนต้องปิดเส้นทางการจราจร รวมทั้งปัญหาน้ำจากคลองเปรมประชากร ที่ท่วมเขตดอนเมือง และกำลังส่งผลถึงเขตหลักสี่นั้น ทำให้กรุงเทพมหานครต้องเร่งระบายน้ำสู่แม่น้ำเจ้าพระยาผ่านคูคลองต่างๆให้เร็วที่สุด โดยเพิ่มศักยภาพประตูระบายคลองบางเขนใหม่ เพื่อหวังให้คนกรุงเทพใน เขตดอนเมือง บางเขน หลักสี่ รอดพ้นจากวิกฤตน้ำท่วม
ประตูระบายน้ำคลองบางเขนใหม่ ภายใต้การดูแลของกทม. สร้างเพื่อเสริมการทำงานประตูระบายน้ำคลองบางเขนที่วัดปากน้ำ เพื่อช่วยระบายน้ำจากคลองสายสำคัญของกรุงเทพตอนเหนือ แต่ปัญหาคือประตูระบายน้ำบางเขนเก่าชำรุด ขณะนี้จึงเหลือเพียงประตูระบายน้ำคลองบางเขนใหม่ ที่มีเครื่องสูบน้ำ10 ตัว ทำงาน24 ชั่วโมง เพื่อเร่งระบายน้ำที่จะไหลเข้าสู่กรุงเทพชั้นในเท่านั้น
แต่ด้วยปัญหาระดับน้ำเจ้าพระยาที่สูงขึ้นถึง 2 เมตร 40 เซนติเมตร และต่ำกว่าแนวคันกั้นน้ำ กทม.เพียง 10 เซนติเมตรเท่านั้น จึงทำให้การระบายน้ำยากลำบากมากขึ้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงเสริมกระสอบทราย ป้องกันน้ำจากเจ้าพระยาล้น และมั่นใจว่า หากระดับน้ำเจ้าพระยาสูงไม่เกิน 4 เมตร จะสามารถระบายน้ำได้ เพราะระดับกักเก็บน้ำต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 1.50 เมตร และยังเหลือระยะขอบเขื่อนรองรับน้ำได้ประมาณ 1 เมตร
ขณะที่กรมอุทกศาสตร์ คาดการณ์ว่าน้ำทะเล จะหนุนสูงที่สุดวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ส่งผลให้แม่น้ำเจ้าพระยาสูง 2.65 เมตร ซึ่งส่งผลต่อการระบายน้ำสู่เจ้าพระยาและความสูงของแนวคันกั้นน้ำ
ดังนั้นประตูระบายน้ำ จึงเปรียบเสมือนแสงสว่างปลายอุโมงค์ของคนกรุงเทพ ที่ต้องลุ้นว่าระบบระบายน้ำจะทำงานแข่งกับเวลาและกระแสน้ำได้หรือไม่ และเพื่อความไม่ประมาทผู้ว่ากรุงเทพมหานคร แนะนำให้คนกรุงทั้ง 50 เขต เก็บทรัพย์สินขึ้นที่สูง เพื่อเตรียมตัวรับมือกับอุทกภัยในครั้งนี้
Produced by VoiceTV |