ศาลอาญายกฟ้องคดี นปช.ปล้นห้างเซ็นทรัลเวิลด์

ศาลอาญากรุงเทพใต้อ่านคำพิพากษาที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องแนวร่วม นปช.7 คน ในข้อหาปล้นห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยศาลมีสั่งจำคุกจำเลยทั้งหมด 6 เดือน ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เเต่ยกคำร้องข้อหาปล้นห้างสรรพสินค้าหลังไม่พบพยานหลักฐาน   ศาลอาญากรุงเทพใต้อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องแนวร่วม นปช.7 คน ในข้อหาปล้นห้างสรรพสินค้าเซนทรัลเวิล ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่ ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และรวมตัวชุมนุมกันเกินกว่า 5 คน ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 หลังแกนนำ นปช.ประกาศยุติการชุมนุมบริเวณสี่แยกราชประสงค์   โดยศาลมีคำพิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง 7 คนในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินคนละ 6 เดือน หลังจำเลยทั้ง 7 คนรับสารภาพ เเต่เนื่องจากจำเลยทั้ง 7 คนถูกคุมขังตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม 2553 จนถึงขณะนี้เป็นเวลารวม 18 เดือนแล้ว ซึ่งเกินคำตัดสินของศาลจึงมีคำสั่งอนุญาติปล่อยตัวจำเลย คือนายอาทิต เบ้าสุวรรณ นายพรชัย โลหิตดี นายวิสิทฑิ์ แก้วกล้า นายยุทธชัย เสนน้อย นายคมสันต์ สุจันทร์ฮาม และนางเจียม ทองมาก ยกเว้นนาย พินิจ จันทร์ณรงค์ จำเลยที่ 3 ยังมีความผิดฐานลักทรัพย์หลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบโทรศัพท์มือถือใหม่ ยังไม่ได้แกะกล่องพร้อมแบตเตอรี่ จึงให้จำคุก 3 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 3 ไว้ทั้งสิ้นเป็นเวลา 3 ปี 6 เดือน และให้จำเลยคืนของกลางคืนแก่ผู้เสียหาย ส่วนข้อกล่าวหา ปล้นและเผาห้างสรรพสินค้าเซนทรัลเวิลด์ หลังการตรวจค้นหลักฐานจากจำเลยทั้ง 6 คน ไม่พบหลักฐานใดๆที่บ่งชี้ว่าจะนำไปสู่การปล้นห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิล อีกทั้งยังไม่พบอาวุธปืนชนิดใด ศาลจึงยกคำร้อง หลังจากที่ศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น ญาติของจำเลยที่มารับฟังการอ่านคำพิพากษาต่างแสดงความดีใจหลังรอคอยเวลานี้มาเป็นเวลานาน   ด้านนายสกุล จันทร์ณรงค์ บิดาของนายพินิจ จันทร์ณรงค์ ซึ่งเป็นจำเลยคนเดียวที่ไม่ได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ กล่าวว่า อย่างน้อยรู้สึกโล่งใจ เพราะศาลตัดสินแล้วว่า นายพินิจไม่มีความผิดในข้อหาปล้นห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลเวิลด์ แต่ยังเหลืออีก 1 ข้อกล่าวหาคือเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ นายสกุล เชื่อมั่นว่าบุตรชายไม่มีพฤติกรรมเช่นนั้นอย่างแน่นอน   ในขณะนี้คดีของคนเสื้อแดงที่อยู่ระหว่างการสืบพยานมีจำนวนกว่า 300 คดี ที่ยังรอคำตัดสินจากศาล คดีส่วนใหญ่เป็นข้อหา ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในสังคม ข้อหารวมตัวชุมนุมเกิน10คนในที่สาธารณะจนก่อให้เกินความวุ่นวาย  ข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินและเผาสถานที่ราชการ     Produced by VoiceTV

URL: http://news.voicetv.co.th/thailand/24651.html