ปตท.เล็งตั้ง บ.ลูก "เอ็นจีวี" ดึงสหกรณ์แท็กซี่ร่วมทุน
บริษัท ปตท. เผย บริษัทมีแนวคิดจะตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารธุรกิจก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) ภาคขนส่ง เพื่อแยกบัญชีออกจาก ปตท. ในการบริหารงานอย่างชัดเจน
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.มีแนวคิดตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารธุรกิจก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) ภาคขนส่ง เพื่อแยกบัญชีออกจาก ปตท. ในการบริหารงานอย่างชัดเจน ลดความขัดแย้งระหว่างบริษัทและผู้ประกอบการรถยนต์สาธารณะและธุรกิจขนส่ง โดยมีแนวคิดเชิญผู้มีส่วนร่วมเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้น อาทิ บริษัทผู้ประกอบการขนส่งสหกรณ์แท็กซี่ต่างๆ รวมถึงประชาชนผู้ใช้ก๊าซเอ็นจีวี ทั้งนี้ ช่วงแรก ปตท.จะเป็นผู้ดำเนินการธุรกิจเอง จากนั้นจะให้ผู้ถือหุ้นมีส่วนร่วมในการบริหารงาน
"คาดว่าช่วงกลางปี 2555 จะได้ข้อสรุปแนวคิดดังกล่าว หากตั้งบริษัทลูกขึ้นมาจะลดความไม่เชื่อใจที่มีต่อ ปตท. ทำให้ผู้ถือหุ้นทราบถึงต้นทุนที่แท้จริงของราคาก๊าซเอ็นจีวี"นายเทวินทร์กล่าว และว่า ที่ผ่านมาการประกอบธุรกิจก๊าซเอ็นจีวีของ ปตท.ขาดทุนสะสมประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท จากต้นทุนของเนื้อก๊าซธรรมชาติที่มีราคาสูงกว่าต้นทุนในปัจจุบันจำนวน 8.50 บาทต่อกิโลกรัม ไม่รวมค่าขนส่ง ค่าลงทุนและบริหารจัดการสถานีบริการ
สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งที่ให้ ปตท.ชี้แจงต้นทุนราคาก๊าซเอ็นจีวีนั้น ที่ผ่านมา ปตท.ได้ชี้แจงและหารือร่วมกันแบบเข้าถึงโดยตรงกับกลุ่มสหกรณ์แท็กซี่และผู้ประกอบการขนส่งแล้ว นอกจากนี้ยังชี้แจงผ่านคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎรคณะกรรมาธิการพลังงาน วุฒิสภาด้วย
"การเรียกร้องที่สมเหตุผลที่สุดในครั้งนี้คือให้ปรับขึ้นราคาได้ แต่ต้องให้ ปตท.มีก๊าซให้เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่ง ปตท.มีแนวคิดใช้แหล่งก๊าซธรรมชาติในอำเภอลานกระบือจังหวัดกำแพงเพชร ในการปรับเปลี่ยนเป็นสถานีแม่จ่ายก๊าซในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อให้มีความสะดวกในการให้บริการของสถานีบริการนอกแนวท่อก๊าซธรรมชาติ"นายเทวินทร์กล่าว
นายเทวินทร์กล่าวว่า นอกจากนี้การนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) จากต่างประเทศเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาความไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยก๊าซดังกล่าวมีความสะดวกในการขนส่ง โดยปตท.เตรียมติดตั้งเครื่องแปลงสภาพก๊าซจากของเหลวเป็นก๊าซในเขตจังหวัดนอกแนวท่อแล้ว
Source : News Center/matichon/Voice TV(Image) |