ปธน.มัลดีฟส์เผยถูก "รัฐประหาร"
| อดีตประธานาธิบดีมัลดีฟส์ เผย การลาออกเกิดจากถูกบีบบังคับจากคณะรัฐประหาร ส่งผลให้ประชาชนในประเทศจำนวนมากออกมาประท้วงต่อต้านการรัฐประหารดังกล่าว
นายโมฮัมเหม็ด นาชีด อดีตประธานาธิบดีมัลดีฟส์ ซึ่งเพิ่งประกาศลาออกจากตำแหน่งไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เปิดเผยว่าการลาออกของเขาเกิดจากการใช้กำลังบีบบังคับของคณะนายตำรวจและทหาร รวมทั้งนายโมฮัมเหม็ด วาฮีด รองประธานาธิบดีซึ่งในขณะนี้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีรักษาการณ์ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการก่อรัฐประหารเงียบล้มล้างรัฐบาล
ในขณะที่นายวาฮีดยืนยันว่าไม่มีแผนการรัฐประหารตามที่นายนาชีดอ้างแต่อย่างใด พร้อมทั้งกล่าวว่าในขณะนี้เขากำลังเตรียมการตั้งรัฐบาลสมานฉันท์แห่งชาติ โดยจะเชิญสมาชิกพรรคประชาธิปไตยมัลดีฟส์ของนายนาชีดเข้าร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยข้อมูลจากนายนาชีดดังกล่าว ได้ปลุกกระแสให้ประชาชนผู้สนับสนุนเขาจำนวนหลายพันคนออกมาชุมนุมประท้วงบนท้องถนนในกรุงมาเล เมืองหลวงของมัลดีฟส์ เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการรัฐประหารดังกล่าว พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายนาชีด ซึ่งถูกบีบบังคับให้พ้นจากตำแหน่งโดยไม่ชอบธรรม กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง จนรัฐบาลต้องใช้กำลังตำรวจเข้าสลายการชุมนุมด้วยการใช้แก๊สน้ำตา ส่งผลให้ผู้ชุมนุมประท้วงบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และถูกจับกุมกว่า 40 คน โดยในบรรดาผู้ที่บาดเจ็บมีนายนาชีดและสมาชิกรัฐสภาฝ่ายรัฐบาลหลายคนรวมอยู่ด้วย
ทั้งนี้ การลาออกของนายนาชีดก่อนหน้านี้ สืบเนื่องมาจากการที่เขาสั่งจับกุมหัวหน้าผู้พิพากษาระดับสูง ซึ่งมีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับนายกายุม อดีตประธานาธิบดีคนก่อนผู้ปกครองประเทศอย่างเผด็จการยาวนานถึง 30 ปี ทำให้ประชาชนกลุ่มอนุรักษ์นิยมและเคร่งศาสนาในประเทศจำนวนมากออกมาประท้วงแสดงความไม่พอใจต่อนายนาชีด และเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่ง โดยผู้นำระดับสูงของกองทัพและตำรวจก็แสดงท่าทีอย่างชัดเจนในการร่วมกดดันรัฐบาลและสนับสนุนฝ่ายผู้ประท้วง
Produced by VoiceTV |
