"รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย" งานเลี้ยงขอบคุณทุกความร่วมมือ
 ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล ในช่วงเย็นจะมีงานเลี้ยงขอบคุณทุกความร่วมมือทั้งไทยและต่างประเทศ ที่ร่วมแรงร่วมใจ ช่วยเหลือกันในช่วง มหาอุทกภัยปี 2554 ที่ผ่านมา จัดภายใต้ชื่องานว่า "รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย"
สำหรับรูปแบบการจัดงานดังกล่าว เป็นงานเลี้ยงแบบคอกเทล มีการเชิญแขกผู้ทรงเกียรติ จากหลายภาคส่วน อาทิ องคมนตรี ทูตานุทูต ผบ.เหล่าทัพ ประธานศาล ประธานองค์กรอิสระ รวมไปถึงคณะกรรมการยุทธศาสตร์ เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรณ์น้ำ หรือกยน. คณะกรรมการยุทศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ หรือ กยอ. นักธุรกิจกว่า 400 คน มาร่วมงาน
ไฮท์ไลท์ของงาน อยู่ที่รัฐบาลได้กราบเรียนเชิญ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มาร่วมงานในฐานะประธานในพิธี ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่พล.อ.เปรม ได้ร่วมงานเลี้ยงรับรองร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังจากที่เคยพบกันมาแล้วในงานเลี้ยงวันกองทัพบก เดือนปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา สร้างความฮือฮา และได้สร้างภาพแห่งประวัติศาสตร์การเมืองไทยไว้อีกครั้งหนึ่ง
สำหรับ วัตถุประสงค์ การจัดงานนี้ เพื่อขอบคุณหน่วยงานทุกหน่วยงานที่ได้มีส่วนร่วมแก้ปัญหาวิกฤติอุทกภัยเมื่อปีที่ผ่านมาตามกำหนดการนายกฯจะมาถึงงานในเวลา 17.40 น. หลังกลับจากเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโครงการสนับสนุนโครงการหลวง ครั้งที่ 1/2555 ณ ห้องประชุมดอยคำ มูลนิธิโครงการหลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ทางด้านการเตรียมความพร้อมการจัดงานทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อย บริเวณสนามหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า จะมีการตั้งเวทีดนตรีเพื่อให้วงซิมโฟนีได้เล่นบรรเลงเพลง ส่วนภายในตึกสันติไมตรีจะเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงรับรอง ที่จะคราคร่ำไปด้วยแขกวีไอพีคนสำคัญ จากหลายสาขาเข้าร่วม
ขณะที่ความคิดเห็นจากบุคคลต่างๆที่มองภาพการจัดงานครั้งนี้ ได้สะท้อนกันหลากหลาย อาทิ
นายธงทอง จันทราศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดงาน" รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย" ในประเด็นที่มีการวิจารณ์ว่าใช้งบประมาณจำนวนมากว่า เราใช้อย่างประหยัดที่สุด ขอให้ดูก่อนว่าการจัดงานจะออกมาเป็นอย่างไร และบรรยากาศของงานเราจะส่งข้อความสาระคำขอบคุณ มีหลาย ๆ อย่างที่ขอมาฟรี แต่อะไรที่จ่ายก็ต้องจ่าย โดยประหยัดและคำนึงถึงประโยชน์สูงสุด ส่วนตัวเลขจริง ๆ ทั้งหมดคือ10 ล้านบาท โดย 3.5 ล้านบาท เป็นเรื่องการอำนวยความสะดวกทั้งหมด ทั้งเรื่องน้ำ ไฟ โทรศัพท์ การเดินทาง อาหารและอื่น ๆ ส่วน 6.5 ล้านคือ เรื่องของวงดนตรี เวที แสง เสียงต่าง ๆ รวมถึงการซ้อมใหญ่ จะต้องค่าใช้จ่าย ดูตัวเลขแล้วสมเหตุสมผลไม่มากเกินไป
ส่วน นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดงาน “รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย” ในวันที่ 10 ก.พ.นี้ โดยเชิญพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มาร่วมงาน ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์มากว่า ตนอยากให้ทุกคนพูดถึงวันนี้ และพรุ่งนี้ ไม่อยากให้พูดถึงเรื่องเมื่อวาน ศาสนาพุทธสอนให้เรามองไปข้างหน้า อย่าคิดเครียดแค้น ชิงชัง ดังนั้นถ้าทุกฝ่ายอยากให้บ้านเมืองสงบ ก็ต้องลืมอดีต
ต่อข้อถามว่ามองกันว่าการเชิญ พล.อ.เปรม มาร่วมงานเป็นน่าจะเป็นผลเสียกับรัฐบาลมากกว่า นายยงยุทธ กล่าวว่า ไม่เสียหรอก เหตุการณ์ในอดีต ก็ถือเป็นเรื่องในอดีต เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ว่าเป็นรัฐบาลอำมาตย์ ตอนนี้จะอธิบายสังคมอย่างไร นายยงยุทธ ยังกล่าวว่า “ผมก็ถือเป็นลูกป๋าคนหนึ่ง เป็นพ่อลูกกันมาตั้งแต่ปี 2537-2538 ดูการแต่งตัวซิ เหมือนป๋าเลย ป๋ายังบอกว่าใน ครม.มีผมกับนายกิตติรัตน์ 2 คนเท่านั้นที่ใส่ผ้าไทยพระราชทาน” ส่วน นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึง การจัดงาน “รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย” ของรัฐบาลที่มีเสียงวิจารณ์ว่า หรูหราสิ้นเปลือง ในขณะที่ชาวบ้านบางส่วนยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาว่า คงเป็นการเข้าใจผิด เนื่องจากเราใช้วงดนตรีออร์เคสตรา ที่มีชื่อเป็นฝรั่ง แต่ความจริงแล้ว เป็นคนไทยเล่นทั้ง 3 วง คือ วงซิมโฟนีออร์เคสตรา จาก จ.ยะลา วงดุริยางคศิลป์ ของมหาวิทยาลัยมหิดล และวงดนตรี 4 เหล่าทัพ
ทั้งนี้ การจัดงานครั้งนี้ มีการเชิญทูตานุทูต เอกชน สภาอุตสาหกรรม ธนาคาร เพื่อมารวมพลังเพื่อบอกกับชาวโลกว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะเดินก้าวต่อไป เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมเห็น ว่า วันนี้ประเทศไทยพร้อมที่จะเดินหน้า และทุกฝ่ายพร้อมใจกันมาสร้างความก้าวหน้าให้กับประเทศไทย เราใช้เงินทุนไม่ถึง 10 ล้านบาท แต่เพื่ออนาคตของประเทศไทย ถือว่าคุ้มค่า
ด้านกรณีที่ชาวบ้านที่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา นายนิวัฒน์ธำรง ชี้แจงว่ารัฐบาลทำงานไปพร้อมๆ กันหลายงานไม่ได้หมายความว่า ต้องทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้เสร็จก่อน แล้วค่อยมาเริ่มฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ส่วนการที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ ระบุไม่ได้รับการ์ดเชิญ นายนิวัฒน์ธำรง ยอมรับว่า คณะจัดงานอาจจะไม่ได้เชิญทั่วทุกกลุ่ม แต่พยายามเชิญกลุ่มใหญ่ๆ ทั้งองคมนตรี ครม. ผบ.เหล่าทัพ ข้าราชการ ภาคเอกชน ทูตานุทูต
ทางด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ กรณีที่รัฐบาลจะจัดงาน“รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย” เพื่อขอบคุณผู้ให้ความช่วยเหลือ และทำงานแก้ปัญหาอุทกภัย โดยอ้างว่าเพื่อสร้างความสามัคคีว่า พยายามนึกอยู่ว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไร เพราะเป็นที่ทราบดีว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น มีเงื่อนปมอยู่ตรงไหน ควรต้องไปตอบโจทย์ตรงนั้น และต้องการให้คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน ที่ยังมีจำนวนมากที่ประสบอุทกภัย และยังมีปัญหาเรื่องการรับเงินเยียวยา แต่รัฐบาลกลับมีงานเลี้ยง ประหนึ่งเป็นความสำเร็จในการแก้ไขปัญหา
ขณะที่ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีที่รัฐบาลจัดงานเลี้ยงในหัวข้อรักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย เพื่อขอบคุณศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.)มีการจัดงานหรูหราขณะที่ประชาชนกว่าแสนคนยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท และประชาชนในหลายพื้นที่ยังจมอยู่ในพื้นที่รับน้ำ เป็นพลเมืองชั้น 2 ของประเทศ ซึ่งรัฐบาลที่อ้างตัวว่าเป็นไพร่แต่กลับมีพฤติกรรมเป็นอำมาตย์ มองไม่เห็นหัวประชาชาน ที่สำคัญ การบริหารงานแก้ปัญหาน้ำที่ผ่านมาทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 815 คน รัฐบาลจะจุดธูปเชิญทั้ง 815 คนมาร่วมงานด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ อยากตั้งคำถามถึงการจัดงานในครั้งนี้ 4 ข้อคือ
สิ่งเหล่านี้ เป็นเสียงสะท้อนของผู้เกี่ยวข้อง และมุมมองของนักการเมือง แต่ไม่ว่างานเลี้ยงครั้งนี้จะผ่านพ้นไปอย่างไร แต่สิ่งที่เป็น “เครื่องหมายคำถามในใจ” นั่นคือ ปีนี้จะเป็นอย่างไร
เชื่อว่า ถ้าทุกฝ่ายตั้งใจร่วมกันแก้ปัญหา และวางแผนรับมือเป็นอย่างดี ในอนาคตคงได้เห็นชาวบ้านได้ร่วมใจอย่างพร้อมเพรียง เลี้ยงฉลองไปพร้อมๆกัน ถ้าปีนี้ น้ำจะไม่ท่วมเหมือนปีที่แล้ว. |
