สศช.ชี้แรงงานพื้นที่น้ำท่วมเสี่ยงถูกเลิกจ้าง
![]() สศช.ชี้ปี 55 แรงงานเสี่ยงถูกเลิกจ้างจำนวนมากพบโรงงานกว่า 284 แห่งยังไม่เปิดกิจการหลังถูกน้ำท่วม
คาดชิงจังหวะก่อนปรับค่าแรงขั้นต่ำปิดโรงงานหรือเลิกจ้างงาน ชี้ชัด 11 กลุ่มอุตฯ เสี่ยงเลิกจ้างงานทั้งผลิตยานยนต์และสิ่งทอ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึงภาวะสังคมไทยไตรมาส 4 ปี 2554 (จีดีพีสังคม) ว่าอัตราการว่างงานช่วงไตรมาส 4 ปี 2554 อยู่ที่ 0.6% หรือเท่ากับมีผู้ว่างงาน 245,890 คน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่การจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 0.9% สวนทางภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลงถึง 9% เนื่องจากในส่วนของผู้ประกอบการด้านก่อสร้างและค้าปลีกค้าส่งยังคงจ้างงานเพิ่มขึ้น และผู้ประกอบการบางส่วนยังอยู่ในช่วงที่ขาดแรงงานและภาวะตลาดแรงงานตึงตัว
โดยภาพรวมการจ้างงานทั้งปี 2554 เพิ่มขึ้น 1.1% ขณะที่อัตราการว่างงานเฉลี่ยทั้งปี 0.7% และช่วงไตรมาส 4 รายได้ที่แท้จริงของแรงงานเพิ่มขึ้น 3.2% ทั้งปีเพิ่มขึ้น 2.8% ซึ่งถือว่าชะลอตัวเนื่องจากตลาดด้านแรงงานยังมีภาวะตึงตัวเช่นกัน
นายอาคมกล่าวว่า สิ่งที่ต้องติดตามในปี 2555 คือความเสี่ยงต่อการเลิกจ้างงาน โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีแรกที่จะมีความชัดเจนจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ไดรับผลกระทบน้ำท่วมในการปรับอัตราการจ้างงานและนโยบายการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
โดยพบว่าขณะนี้มีแรงงานถึง 4.5 หมื่นคน ที่ถูกเลิกจ้างงานจากสถานประกอบการ 122 แห่ง และอีก 284 แห่ง ที่ยังเปิดกิจการไม่ได้ส่งผลให้มีแรงงานที่เสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้าง เนื่องจากยังรอการกลับเข้าทำงานของโรงงานที่ถูกน้ำท่วมอีกจำนวนถึง 164,552 คน และเมื่อรวมกับอัตราการจ้างงานที่จะปรับขึ้นอีก 40% ทั่วประเทศ และ 40% ใน 7 จังหวัดนำร่องก็จะเป็นเหตุผลทำให้ผู้ประกอบการทบทวนนโยบายการจ้างงาน และอาศัยเหตุการณ์น้ำท่วมประกาศปิดบริษัทหรือเลิกจ้างงาน
สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่เสี่ยงต่อการเลิกจ้างแรงงานได้แก่ การผลิตยานยนต์ เครื่องจักรสำนักงาน อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอเครื่องแต่งกาย เครื่องจักรที่ใช้ในงานทั่วไป โทรทัศน์ วิทยุ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยาง เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก เป็นต้น
|