บทเรียนยุทธการกระชับวงล้อม น้ำลดตอผุด

วารสารเสนาธิปัตย์ ปีที่ 59 ฉบับที่ 3 เดือนกันยายน-ธันวาคม 2553 ได้เสนอบทความสรุปบทเรียนยุทธการกระชับวงล้อม พื้นที่ราชประสงค์ วันที่ 14-19 พฤษภาคม 2553 โดยหัวหน้าควง มีการพูดถึงความสำเร็จทางยุทธการกระชับวงล้อมพื้นที่ราชประสงค์ สืบเนื่องจากความเป็นเอกภาพชองรัฐบาลกับกองทัพ และเปิดยุทธการกระชับวงล้อม ที่มีความชัดเจน ทางการเมือง คือยุติการชุมนุมไม่ใช้การกระชับวงล้อมเพื่อเปิดการเจรจราอีก โดยมีการสั่งการในวันที่ 12 พฤษภาคม ทำให้ฝ่ายทหารเริ่มปฎิบัติการตามแผนยุทธการที่ได้วางไว้ เริ่มตั้งแต่ ภาษาคำว่า”กระชับวงล้อม” ไม่ใช้”การสลายม็อบ”คือการปราบม้อบ หรือ”การปิดล้อม”ซึ่งส่งผลจิตวิทยาระดับยุทธศาสตร์ ทำให้เกิดการผ่อนคลาย มาตรการตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดระบบการส่งกำลังบำรุง เป็นการสร้างแรงกดดันให้ม็อบราชประสงค์ ความมีเอกภาพของรัฐบาลและกองทัพ แม้ว่าจะไม่ลงรอยกันบ้างในการแก้ปัญหาเรื่องจากการใช้กำลังทหารขอคืนพื้นที่ ในวันที่ 10 เมษายน 2553 บริเวณสี่แยกคอกวัว กลายเป็นหลอกหลอนผู้นำกองทัพอยู่เสมอ    แต่เมื่อได้ประเมินทางยุทธศาสตร์ มีความคุ้มค่าและมองเห็นความสำเร็จ รัฐบาลกับกองทัพหันมาร่วมมือกันเปิดยุทธการครั้งนี้อย่างมั่นใจ และความร่วมมือทุกเหล่าทัพ โดยการประกาศวันหยุดราชการของรัฐบาล  การทำงานด้านข่าวสาร ผ่านกรมประชาสัมพันธ์ผ่านโทรทัศน์ NBT การแถลงข่าวของ ศอฉ. รวมทั้งการสื่อสารกับนานาชาติ โดยผ่านรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และกระทรวงการต่างประเทศ การชี้แจงเรื่องการใช้อาวุธ การใช้หน่วยสไนเปอร์ สามารถทำได้อย่างทันท่วงที  มีการควบคุมการติดต่อสื่อสารทุกระบบ ซึ่งเป็นงานยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เมื่อกระทรวง ไอซีที สั่งปิดเว็บไซด์      เฟซบุ๊ค และทวิตเตอร์ของเครือข่ายอดีตนายกรัฐมนตรี  มีการทำงานสอดคล้องกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในเรื่องการทำธุรกรรมทางการเงินของผู้ต้องสงสัย  มีการนำคดีการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงกับคดีการก่อการร้ายมาเป็นคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำให้คดีมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และมีหน่วยที่เกี่ยวข้อง 11 หน่วยงานมาช่วยกันทำคดีการก่อการร้าย ถือว่าเป็นการสร้างความเข้มข้นของการบังคับใช้กฎหมายอย่างมาก    จุดอ่อนของกลุ่ม นปช.กลายเป็นจุดแข็งของรัฐบาล คือการถอนตัวของนายวีระ มุสิกพงศ์ และการเสียชีวิตของ พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ถือว่าเป็นสัญญาณแห่งความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์เพราะกลุ่ม นปช.ไม่มีหัวระดับยุทธศาสตร์ทางการเมืออง และไม่มีหัวเสธ.ระดับยุทธศาสตร์ทางทหารในการวางแผนตั้งรับ ในกรณีที่ทหารเข้าสลายม็อบ นปช.    นอกจากนี้แผนยุทธการสลายม็อบราชประสงค์ถูกกำหนดดีเดย์ตั้งแต่ตี 3 ครึ่งของวันที่ 19 พฤษภาคม ตั้งแต่หน่วยสไนเปอร์ อยึดพื้นที่สูงข่มของตึกบนถนนวิทยุ อาคารเคี่ยนหงวน  สะพานสารสิน อาคารบางกอกเคเบิล  การยึดพื้นที่สวนลุมพินีได้ก่อนสว่าง   ในข้อความหนึ่งระบุว่า การปฎิบัติการใช้กำลังทหาร 2 หมื่นนาย การสูญเสียทหาร 1 นาย กับการบาดเจ็บจำนวนหนึ่งถือว่าเป็นความสูญเสียที่ยอมรับได้ ซึ่งปฎิบัติการครั้งนี้มีการใช้ทหารเต็มรูปแบบ มีการใช้กระสุนจริง จากกำลังหน่วยรบหลักของเหล่าทหารราบ เหล่าทหารม้า และส่งกองกำลังทางอากาศ อาจเรียกได้ว่าเป็นการรบในเมืองที่ใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารเต็มอัตราศึก ทั้งกำลัง อาวุธประจำกายที่ทันสมัย ชุดสไนเปอร์ หน่วยยานเกราะ นอกจากนี้ยังมีการเสนอแนะทางยุทธการบางตอนว่าควรสนับสนุนให้ พล.ม.2 รอ.ในภารกิจการปฎิบัติรบในเมืองอย่างเต็มขนาดเพื่อจะเป็นหลักประกันการบุกทะลวงแนวตั้งรับของกลุ่มประท้วงในอนาคต   Produced by VoiceTV