| Intelligence ประจำวันที่ 8 สิงหาคม 2554
ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ วิพากษ์นโยบายการต่างประเทศของไทยในรอบ 10 ปีตั้งแต่ 2544-2554
1. รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ช่วงปี 2544 – 2549 ใช้แนวทาง Dual Track คือการพัฒนาการเมืองภายใน คู่ขนานไปกับการเมืองระหว่างประเทศ อาจารย์ปวินประเมินว่า มีหลายนโยบายเป็นความคิดริเริ่มที่ดี ที่เกิดจากความทะเยอทะยานส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่สิ่งที่เป็นจุดอ่อนของนโยบายการต่างประเทศในช่วงเวลานั้น คือ การละเลยบทบาทของอาเซียน เพราะมองว่าเป็นองค์กรล้าสมัย เชื่องช้า แต่ไปให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชีย โดยมุ่งไปที่กรอบ ACD หรือ Asia Cooperation Dialogue 2. รัฐบาลหลังรัฐประหาร 2549 เป็นช่วงที่ไม่มีนโยบายด้านการต่างประเทศ แต่ใช้นโยบายการต่างประเทศเพื่อทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมือง รัฐบาลเน้นการทูตเชิงคุณธรรม จริยธรรม แบบ Ethical Diplomacy และเป็นช่วงการล้างแค้นทางการทูต 3. ยุครัฐบาลสมัคร – สมชาย อาจารย์ปวิน วิพากษ์ว่าเลือกตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศผิดพลาด เพราะคุณนพดล ปัทมะ มีพันธะทางการเมืองที่ใกล้ชิดกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะที่ปรึกษากฎหมาย ทำให้การทูตถูกใช้เป็นเครื่องมือทำลายล้างทางการเมืองโดยเฉพาะ ความสัมพันธ์ไทย – กัมพูชา 4. ยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อาจารย์ปวิน แสดงความผิดหวังกับนโยบายต่างประเทศในยุคนี้ เพราะจมอยู่กับปัญหาทางการเมืองภายในประเทศมากเกินไป และใช้นโยบายต่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาการเมืองภายใน โดยเฉพาะกรณีปราสาทพระวิหาร และไม่ได้ให้ความสำคัญกับบทบาทของอาเซียน ทั้งๆที่ เลขาธิการอาเซียนคนปัจจุบัน คุณสุรินทร์ พิศสุวรรณ คือคนของพรรคประชาธิปัตย์
อาจารย์ปวิน มองความท้าทายด้านการต่างประเทศในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ คือ กรณีความสัมพันธ์ไทย – กัมพูชา และการกลับมาให้ความสำคัญกับอาเซียน เพราะถ้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่ครบวาระ 4 ปี คือ 2015 คือปีแห่งการเป็นประชาคมอาเซียน จำเป็นต้องพลิกวิกฤติไทย - กัมพูชา Produced by VoiceTV |