กษัตริย์ซาอุดิอาระเบียเรียกทูตกลับจากซีเรีย

กษัตริย์ซาอุดิอาระเบียประณามการใช้ความรุนแรงในซีเรียพร้อมระบุว่า จะถอนเอกอัครราชทูตซาอุดิอาระเบีย ออกจากกรุงดามัสกัสประเทศซีเรียทันที   กษัติรย์อับดุลเลาะห์แห่งซาอุดิอาระเบียออกแถลงการณ์ประณามการปราบปรามประชาชนในประเทศซีเรีย มีใจความว่าประเทศซาอุดิอาระเบียรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศซีเรียโดยรัฐบาลซีเรียควรตัดสินใจให้ดีว่าจะปฏิรูปประเทศก่อนที่จะสายหรือจะจมอยู่กับความวุ่นวายภายในประเทศ และสูญเสียทุกสิ่งไป พร้อมกันนี้กษัตริย์อับดุลเลาะห์ ยังระบุว่า จะเรียกเอกอัครราชทูตซาอุดิอาระเบียประจำกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรียกลับประเทศเพื่อปรึกษาหารือ แถลงการณ์ของกษัตริย์อับดุลเลาะห์แห่งซาอุดิอาระเบียฉบับนี้ออกมาหลังจากที่สภาความร่วมมือแห่งรัฐอ่าวอาหรับ ซึ่งประกอบด้วยประเทศบาห์เรน คูเวตโอมาน กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เรียกร้องให้ซีเรียยุติการนองเลือด เช่นเดียวกับ 22 ชาติของสันนิบาตอาหรับที่เรียกร้องให้ซีเรียยุติความรุนแรงเช่นกัน ด้านนายอาลี อัล อาเหม็ดผู้อำนวยการสถาบันการอ่าวในกรุงวอชิงตันแสดงความเห็นต่อการเรียกทูตกลับประเทศของกษัตริย์อับดุลเลาะห์ว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญเพราะที่ผ่านมาซาอุดิอาระเบียก็มีบทบาทในการสนับสนุนการลุกขึ้นต่อสู้ของประชาชนชาวซีเรียมาโดยตลอดแต่ไม่เคยเปิดเผยชัดเจน ดังนั้นการเรียกทูตกลับจึงเป็นการประกาศว่าซาอุดิอาระเบียยืนอยู่ข้างประชาชนชาวซีเรียจึงน่าจะเป็นการกดดันรัฐบาลซีเรียได้เป็นอย่างดีเนื่องจากรัฐบาลซีเรียไม่อยากสูญเสียมิตรอย่างซาอุดิอาระเบียไป อย่างไรก็ตามซาอุดิอาระเบียก็ไม่มีความชอบธรรมในการไปชี้นำการปฏิรูปในประเทศซีเรียเพราะซาอุดิอาระเบียเองก็ไม่เคยผ่านการปฏิรูปในรูปแบบดังกล่าวมาก่อนรวมทั้งยังเคยแทรกแซงบาห์เรนให้หยุดการปฏิวัติอีกด้วย สำหรับสถานการณ์ในประเทศซีเรียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทหารซีเรียยิงเข้าใส่ผู้คนที่เข้าร่วมพิธีศพและบุกเข้าโจมตีเมืองเด เอสซอร์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศซีเรียส่งผลให้ผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 ราย ในขณะที่การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมยังคงเข้าไม่ถึงทำให้ในเมืองขาดยารักษาโรค นมผงสำหรับทารก อาหาร และเชื้อเพลิง   Produced by VoiceTV Source : AFP (Image)