| สถานการณ์ในกรุงลอนดอนเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ร้านค้าต่างๆ เริ่มเปิดให้บริการ หลังเกิดเหตุจลาจลมา 4 คืนติดต่อกัน แต่ยังคงมีกำลังตำรวจทั่วเมือง สถานการณ์ในประเทศอังกฤษ ชีวิตของผู้คนในกรุงลอนดอนเริ่มกลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ต้องผจญเหตุจลาจลมา 4 คืนติดต่อกัน ทำให้เกิดความเสียหายทั้งบ้านเรือน ร้านค้าต่างๆและมีผู้เสียชีวิต 4 คน ร้านค้าและร้านอาหารในย่านต่างๆของเมืองหลวง เปิดบริการธุรกิจอีกครั้ง แต่ยังคงกำลังตำรวจไว้ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ ให้คำมั่นต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติ ว่าจะพยายามแก้ปัญหาให้เกิดความสงบโดยเร็วที่สุด และอาจจะพิจารณาเรื่องการใช้กำลังทหารเข้ามาช่วยดูแลรักษาความสงบ สื่ออังกฤษ เผยแพร่ภาพและวิดีโอ สรรเสริญชายชรา คนหนึ่งที่เข้าขัดขวางความพยายามเผาเมืองของแก๊งวัยรุ่นจนตัวเองถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บและต้องนอนใช้เครื่องช่วยหายใจในห้องไอซียูเวลานี้ นายริชาร์ด แมนนิงตัน โบว์ส วัย 68 ปี ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณศีรษะเมื่อเย็นวันจันทร์ ขณะเขาพยายามเข้าดับไฟในถังขยะของซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในเมืองอิลลิง ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน ที่พวกก่อจลาจลจุดขึ้นหมายให้ลุกลามไปทั่ว และจนถึงวันพฤหัสบดี อาการของเขาก็ยังอยู่ในขั้นวิกฤต ด้าน จอห์น แมคฟาร์เลน หัวหน้าหน่วยสืบสวน เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่สามารถติดต่อครอบครัวของนายริชาร์ดได้ได้และร้องขอให้ผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัว นายคาลิด อาบู บาการ์ รองผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย กล่าวสนับสนุนวิธีการปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงในมาเลเซียเมื่อเดือนที่แล้ว โดยบอกว่าเป็นวิธีที่จะสกัดกั้นไม่ให้บานปลายกลายเป็นเหตุจลาจลอย่างที่เกิดขึ้นในอังกฤษ ก่อนหน้านี้รัฐบาลมาเลเซียเผชิญเสียงวิจารณ์ที่สั่งการให้ตำรวจปราบจลาจลยิงแก๊สน้ำตา และฉีดน้ำสลายกลุ่มผู้ประท้วงในกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 9 ก.ค. โดยมีผู้ถูกจับกุม ไปกว่า 1,600 คน รองผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย โพสต์ในเฟซบุ๊คว่า มาเลเซีย พยายามอย่างหนักในการหาวิธีรับมือกับผู้ประท้วง และสามารถรอดพ้นแนวโน้มที่จะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายมาได้ ขณะที่ การประท้วงในอังกฤษ กลายเป็นเหตุจลาจล อยู่ในเวลานี้ และไม่ควรปล่อยให้ประท้วงตามท้องถนน เพราะไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ได้ ซึ่งการรักษาสิทธิจะต้องสอดคล้องกับความสงบเรียบร้อยในสังคม Source : ศูนย์ข่าวแปซิฟิค/AFP (Image) |