อานิสงส์รถคันแรกดันลิสซิ่งโต30%
 ศูนย์วิจัยกสิกรชี้มาตรการรถคันแรกดันธุรกิจลิสซิ่งโต 30% แต่ต้องปรับกลยุทธ์เพิ่มเงินดาวน์ ลดความเสี่ยงคนทิ้งรถ
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้จัดทำรายงานแนวโน้มธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ (ลิสซิ่ง) ในระยะที่เหลือของปี 2554 และปี 2555 หลังรัฐบาลออกมาตรการภาษีรถคันแรกว่า มาตรการดังกล่าวที่รัฐบาลประกาศใช้ในช่วง 16 กันยายน 2554-31 ธันวาคม 2555 อาจก่อให้เกิดความต้องการซื้อรถยนต์เพิ่มมากขึ้นผ่านการเพิ่มอำนาจซื้อให้กับผู้บริโภค เมื่อรวมกับกลยุทธ์เชิงรุกของผู้เล่นรายใหญ่ที่เป็นธนาคารพาณิชย์ คาดว่าธุรกิจเช่าซื้อรถในระบบสถาบันการเงินมีโอกาสเติบโตสูงต่อเนื่องประมาณ 28-30% ในปี 2554 และปี 2555 แนวโน้มตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อาจเติบโตได้มากกว่า 25%
อย่างไรก็ตาม คาดว่าผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้ออาจต้องมีการปรับกลยุทธ์ เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงที่ระมัดระวังมากขึ้น เพื่อบรรเทาผลกระทบจากกรณีที่ผู้บริโภคที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีบางกลุ่มอาจประสบปัญหาการชำระหนี้ และมีความเสี่ยงเรื่องปัญหาการทิ้งรถ เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจไทยอาจได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่มีปัญหาเพิ่มขึ้นได้ โดยผู้ประกอบการสินเชื่อเช่าซื้ออาจต้องเพิ่มหลักเกณฑ์ เพื่อป้องกันความเสี่ยง เช่น ปรับเพิ่มวงเงินดาวน์จาก 15% เป็น 20% ทั้งนี้ โอกาสเห็นภาวะการแข่งขันในธุรกิจนี้ที่ยังคงความรุนแรงต่อเนื่อง
"นอกเหนือจากความต้องการซื้อรถจากผู้บริโภคที่มีแผนซื้อรถกลุ่มที่ได้รับสิทธิประโยชน์ จากกลุ่มที่เคยตั้งใจซื้อรถมือสองมาซื้อมือหนึ่งแทน กลุ่มที่ตั้งใจซื้อรถขนาดกลางเป็นขนาดเล็ก เพราะประหยัดถึง 100,000 บาทแล้ว ยังมีผลปัจจัยด้านฤดูกาลในงานมอเตอร์โชว์ในช่วงปลายปีด้วย"
ศูนย์วิจัยรายงานอีกว่า ขณะเดียวกันผู้ประกอบการขายรถมือสองอาจได้รับผลกระทบด้านราคา แต่ผู้ซื้อและธุรกิจให้เช่าซื้อรถมือสองมีแนวโน้มได้ประโยชน์จากราคาที่ลดลง โดยตลาดรถมือสองอาจต้องยอมปรับลดราคาขายลงมาในรถรุ่นที่ใกล้เคียงกับรถที่ได้รับประโยชน์จากโครงการรถคันแรก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการขายรถมือสองบ้าง แต่ในขณะเดียวกันจะเป็นผลดีต่อผู้ซื้อ ที่มีโอกาสได้ซื้อรถในราคาที่ต่ำลง อีกทั้งยังมีโอกาสขอสินเชื่อเพื่อเช่าซื้อรถได้ง่ายขึ้น เนื่องจากราคารถที่ลดลง ทำให้ความเสี่ยงด้านมูลค่าหลักประกันของผู้ประกอบการให้เช่าซื้อลดลงตามไปด้วย
source : matichon (image) |
