จิรายุ" เผย CCTV ส่อทุจริต 2 ยุค ผู้ว่าฯกทม.
| รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกต โครงการจัดซื้อกล้อง cctv ของกรุงเทพมหานครส่อเค้าทุจริต เตรียมยื่นให้ดีเอสไอตรวจสอบ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีกล้องวงจรปิด หรือ CCTV ของกรุงเทพมหานคร ส่อเค้าทุจริตงบประมาณใน 2 ช่วง คือ ช่วงของ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และหม่อมราชวงศ์ สุขุมพันธุ์ บริพัตร ขณะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร เพราะจากการตรวจสอบย้อนหลัง พบว่า มีการประมูลผิดปกติในราคาจัดซื้อและสเปกของตัวกล้อง อีกทั้งบริษัทที่ชนะการประมูล เป็นบริษัทเดียวกับที่บริจาคเงินให้กับพรรคประชาธิปัตย์ด้วย โดยหลังจากนี้ จะนำข้อมูลยื่นให้กับ กรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไป
พร้อมกันนี้ ยังตั้งข้อสังเกตว่า กล้อง 1 หมื่นตัว จะใช้ได้จริงหรือไม่ เนื่องจากกล้องที่นำมาติดส่วนใหญ่ไม่รองรับกับกระแสไฟ ส่วนสายไฟเบอร์ออฟติกที่จะส่งสัญญาณมายังสำนักงานเขต ก็ไม่มีความชัดเจนว่าจะส่งมาถึงหรือไม่ และจากการตรวจสอบที่สำนักงานเขตคลองสามวา และสำนักงานเขตอื่นๆก็พบว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่นั่งติดตามภาพจากกล้องวงจรปิด จึงเชื่อว่ามีกล้องไม่น้อยกว่า 5 พันตัว ที่ไม่สามารถส่งสัญญาณภาพได้ อย่างไรก็ตามหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ ควรออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงว่า มีกล้องจริงและกล้องหลอก จำนวนเท่าใด เพื่อคลายความสังสัยใหเกับประชาชน
นอกจากนี้ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ร้องให้ฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์หยุดเล่นวาทกรรมเป็นเวลา 6 เดือน ในการพยายามเชื่อมโยงรัฐบาลไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคนในตระกูลชินวัตร โดยพรรคเพื่อไทยยืนยัน จะสนับสนุนการกำหนดนโยบายของรัฐบาล
พร้อมเชื่อว่าทุกนโยบายให้ประโยชน์ต่อประชาชนทุกส่วนไม่ได้เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ยกระดับชีวิต และเพิ่มกำลังการซื้อ เช่นเดียวกับกรณีโครงการบ้านหลังแรก ที่ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอสซี แอสเซท คอเปอเรชั่น จำกัด มหาชน เหมือนที่ฝ่ายค้านกำลังโจมตีแต่จะให้ประโยชน์กับคนในฝ่ายค้านด้วยหากมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์
Produced by VoiceTV |