วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

พ.อ.สรรเสริญย้ำอีกรอบ ทหารทำตามคำสั่งศอฉ.

พ.อ.สรรเสริญย้ำอีกรอบ ทหารทำตามคำสั่งศอฉ.

พ.อ.สรรเสริญ ย้ำ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำให้การ กรณีสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง แม้จะเปลี่ยนรัฐบาล หวัง อภิสิทธิ์ –สุเทพ เข้าใจ 

 

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก (ทบ.) ในฐานะอดีตโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ชี้แจงกรณีที่มีสื่ออ้างถึงคำให้การพาดพิง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้อำนวยการ ศอฉ. เป็นผู้สั่งการปราบปรามกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า เมื่อวันอังคารที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้เดินทางไปพร้อมนายทหารพระธรรมนูญเพื่อให้การต่อกรณี 13 ศพ จากการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งเรื่องมาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สอบสวนเพิ่มเติม เรื่องที่ให้ปากคำ เป็นเรื่องเดิมทั้งหมดที่เคยแถลงข่าวตั้งแต่ ศอฉ. และเป็นเรื่องเดิมที่เคยให้ปากคำไปแล้ว

 

โฆษก ทบ.ระบุว่า ขอยืนยันตามคำให้การเดิม สรุปว่า ศอฉ.จัดตั้งขึ้นตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี มีใครเป็นผู้บังคับบัญชา ทหารปฏิบัติภารกิจภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในฐานะเจ้าพนักงานของรัฐ การปฏิบัติงานก็เป็นไปตามมติ ศอฉ.

 

การปฏิบัติยึดถือเรื่องความปลอดภัยของประชานเป็นไปตามหลักสากล มีมาตรการขั้นเบาไปหาหนัก 7 ขั้นตอน มีการแบ่งให้เห็นอย่างชัดเจน แต่สถานการณ์จริงเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก แต่ละขั้นตอนอาจจะดำเนินการไปแบบต่อเนื่องตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กระสุนจริงมีการนำมาใช้ แต่มีมาตรการควบคุมอย่างชัดเจนว่า กระสุนจริงยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขวัญผู้ที่กระทำการผิดกฎหมาย และใช้กรณีเจ้าหน้าที่ตรวจพบเป้าหมายบุคคลที่มีการถืออาวุธร้ายแรงที่กำลังทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชนให้ได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

                
พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า สิ่งที่ได้ให้การไปคือสิ่งที่ได้ชี้แจงไว้แล้วสมัย ศอฉ. และให้การเช่นนี้มาตลอด ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ตอนท้ายได้ยกตัวอย่างให้เห็นว่าทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนหรือปฏิบัติการฝึก ทางผู้บังคับบัญชาฝึกเสมอว่าจะไม่ทำร้ายผู้ที่ไม่ถืออาวุธ ดังนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่บุคคลซึ่งอยู่ตรงหน้าเป็นพี่น้องประชาชนคนไทยด้วยกัน ที่มีความคิดแตกต่างทางการเมืองจะนำอาวุธกระสุนจริงมาทำร้ายพี่น้องประชาชน  โดยให้ปากคำไปทั้งหมด 13 กรณี

                
พ.อ.สรรเสริญกล่าว ยืนยันว่าคำให้การไม่ได้ไปชี้นำหรือพุ่งเป้าไปที่ใคร ส่วนนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ จะเข้าใจหรือไม่นั้น ผมไม่มั่นใจว่าท่านจะรู้สึกอย่างไร แต่คิดว่าต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง ท่านก็ทำหน้าที่ของท่าน ทหารก็ทำหน้าที่ของเรา ทุกคนยึดตามตัวบทกฎหมาย คิดถึงสิ่งที่ถูกต้อง ความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก ทุกคนต้องเกิดความเชื่อมั่นศรัทธาซึ่งกันและกันในการทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐ คิดว่าท่านคงเข้าใจมั้ง"

                
และถึงแม้รัฐบาลจะเปลี่ยนแปลง แต่คำให้การไม่เปลี่ยนใช่หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ข้อเท็จจริงคือข้อเท็จจริง เราไม่สามารถเปลี่ยนคำให้การได้ อีกทั้งตัวโฆษก ศอฉ.ไม่ใช่ประจักษ์พยาน ซึ่งประจักษ์พยานคือคนที่อยู่ในเหตุการณ์ที่เห็นและอธิบายความได้ โฆษก ศอฉ.ชี้แจงได้เฉพาะนโยบาย หลักการ ในภาพรวมกว้างๆ เป็นพยานบอกเล่า  

 

Source : News Center / Matichon /  VoiceTV (Image)