คดีปล้นบ้านปลัดสุพจน์ เอี่ยวรถไฟฟ้าสีม่วง
| การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้(24 พ.ย) มีการตั้งกระทู้ถามสด กรณีการปล้นบ้านปลัดกระทรวงคมนาคม จาก ส.ส.พรรคเพื่อไทย เพราะเห็นว่า เงินในบ้านมีจำนวนมากกว่าปกติและอาจส่อเค้าว่ามาจากการทุจริตได้ ขณะที่ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้ชี้แจง ระบุคดีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการรถไฟฟ้าสีม่วง
ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับมอบหมายให้ตอบกระทู้แทนนายกรัฐมนตรี เห็นว่าคดีการปล้นบ้าน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม อาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการรถไฟฟ้าสีม่วง โดยเห็นได้จากกรณีที่องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ ไจก้า ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้กู้เงินในการก่อสร้างโครงการประกวดราคาการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ยกเลิกสัญญาการก่อสร้างกับบริษัท ซิโนไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น
ระหว่างการอภิปราย นายพิเชษฐ์ ได้พาดพิงถึงนายโสภณ ซารัมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จากพรรคภูมิใจไทย ว่าอาจได้รับผลประโยชน์จากโครงการต่างๆของกระทรวงคมนาคม และอาจมีเงินมากกว่าปลัดกระทรวง ทำให้นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วงเพื่อให้นายพิเชษฐ์ถอนคำพูด
ร้อยตำรวจเอกเฉลิม ยืนยันจะเร่งสืบสวนสอบสวนและหากพบว่ามีการทุจริตจริงและมีหลักฐานชัดเจน ก็จะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนักการเมือง แต่การดำเนินการจะต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง เพราะอาจมีการกลั่นแกล้ง เพราะคดีนี้ส่อให้เห็นถึงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากการทุจริตคอร์รัปชั่น ดูจากคำให้การของปลัดกระทรวงคมนาคมที่ไม่ตรงกับจำนวนเงินที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดได้ถึง17 ล้าน 8 แสนบาท จึงต้องมีการสอบสวน และมีคำสั่งย้ายนายสุพจน์มาช่วยงานที่สำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว
สำหรับแนวทางการสอบสวนพลตำรวจเอกเพรียวพันธ์ มาดาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งให้ติดตามที่มาของเงินจากแถบที่คาดธนบัตร เพื่อติดตามธนาคารที่มีการเบิกจ่ายและตรวจสอบว่ามีการเบิกจ่ายในลักษณะใด โดยขอให้ทางตำรวจให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช.และ ป.ป.ง. อย่างเต็มที่ และเห็นว่า นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม อาจเข้าข่ายให้การเท็จจริง จากกรณีที่ให้การในครั้งแรกว่า ถูกปล้นเงินไป 5 ล้านบาท ซึ่งขัดแย้งกับจำนวนเงินที่ยึดคืนมาได้ และข้อมูลที่กลุ่มผู้ต้องหากล่าวอ้าง หากสืบสวนจนมีหลักฐานชัดเจนในภายหลัง นายสุพจน์อาจต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าวด้วย
ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวของกระทรวงคมนาคม จะมีการเชิญตัวนายสุพจน์ มาให้ข้อมูล โดยระเบียบราชการต้องตั้งข้าราชการระดับเดียวกับผู้ที่ถูกกล่าวหาคือระดับซี11ขึ้นมาสอบ และหากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่ามีความผิด ก็ต้องเสนอให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยต่อไป
Produced by VoiceTV |