วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

จับมือแก้ปมน้ำท่วมโค้งสุดท้าย

จับมือแก้ปมน้ำท่วมโค้งสุดท้าย

หลังจากตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดข้อเรียกร้องของมวลชนหลายพื้นที่ในเขตปริมณฑล ให้หน่วยงานรัฐแก้ปัญหาน้ำท่วมที่เริ่มเน่าและส่งกลิ่นเหม็น

 

โดยการรื้อบิ๊กแบ๊กและคันกั้นน้ำหลายจุดเพื่อระบายน้ำออก วันนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือแก้ปัญหานี้ร่วมกัน โดยส่วนใหญ่ต่างขอเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่

 

กลายเป็นสัญญาณที่ดีอีกครั้ง เมื่อนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวก้อย หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดโต๊ะพิเศษหารือเพื่อคลี่คลายปัญหาอุทกภัยร่วมกัน พร้อมกับพลตำรวจเอกประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ ผู้อำนวยการ ศปภ. นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอานนท์  สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รวมทั้งผู้ว่าราชการ 6 จังหวัดปริมณฑล ทั้ง ปทุมธานี,นนทบุรี,นครปฐม,สมุทรสาคร,สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา

เปิดฉากการหารือ ด้วยคำยืนยันของนายยงยุทธ ที่ย้ำว่า รัฐบาลไม่มีความขัดแย้งกับ กทม.และประสานงานกันโดยตลอด และทางผู้ว่าฯ กทม.ไม่ได้คิดแต่ปกป้องพื้นที่ กทม แต่ยังคำนึงถึงผลกระทบในปริมณฑล และจังหวัดอื่นๆ ทั้งนี้ จะเร่งแก้ปัญหาน้ำรวมทั้งเปิดทางสัญจรให้ได้ก่อนวันมหามงคล 5 ธันวาคมนี้ พร้อมยืนยันว่า การเจรจาเป็นทางออกที่ดีในการแก้ปัญหามวลชน เนื่องจากเป็นความเดือดร้อน ไม่ได้เป็นปัญหาความมั่นคง

 

เช่นเดียวกับผู้ว่าฯกทม. ชี้แจงถึงเหตุผลการพิจารณาเปิด-ปิดประตูระบายน้ำว่า จะต้องพิจารณาทั้งระบบ ทั้งพื้นที่เหนือน้ำและปลายน้ำ เพื่อไม่ให้กระทบพื้นที่ กทม. ซึ่งสถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว แต่ยอมรับว่าฝั่งธนบุรีการระบายน้ำได้ช้า แต่จะทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนพื้นที่ตะวันออกระดับน้ำลดลง รวมถึงคลองรังสิตด้วย

 

ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 6 จังหวัดปริมณฑล ได้ขอให้รัฐบาลเร่งจัดหาเครื่องสูบน้ำ เพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง โดยเฉพาะจังหวัดนนทบุรี และปทุมธานี ที่น้ำท่วมขังนานนับเดือน จนน้ำเน่าเสียและยุงชุม ซึ่งขณะนี้นนทบุรีมีปริมาณน้ำท่วมขังในพื้นที่กว่า 380 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลากว่า 19 วันจึงจะระบายน้ำออกได้หมด พร้อมเสนอให้กรมชลประทานปิดประตูระบายน้ำคลองพระพิมล เพื่อไม่ให้น้ำทุ่งไหลเข้ามาสมทบ 

 

ส่วนจังหวัดสมุทรปราการน้ำลดแล้วเกือบทุกพื้นที่ และสามารถรองรับน้ำเพื่อเป็นทางผ่านออกสู่ได้ทะเลได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เช่นเดียวกับจังหวัดฉะเชิงเทราที่ยังรองรับได้ กว่า 100 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน รวมทั้งพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ขอเครื่องสูบน้ำ 100 เครื่อง เพื่อเทศบาลอ้อมน้อยที่ระดับน้ำยังท่วมสูง

 

ด้านอธิบดีกรมชลประทาน เห็นว่าต้องมีการพิจารณาการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำในฝั่งตะวันออกตามสถานการณ์ เนื่องจากขณะนี้ถือว่าอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว อีกทั้งได้ย้ายเครื่องสูบน้ำจำนวนหนึ่ง ไปช่วยระบายน้ำฝั่งตะวันตกแล้ว

ขณะที่นางสาวยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการประชุมร่วมกันวันนี้ จะนำไปสู่การปฏิบัติงานที่ชัดเจน และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดที่เข้าร่วมประชุมถือเป็นตัวแทนที่จะนำข้อเรียกร้องของประชาชนมาหารือ ดังนั้นข้อสรุปที่ได้ คือความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาที่ทุกฝ่ายต้องเห็นพ้อง ส่วนกรณีการเคลื่อนไหวแสดงความไม่พอใจของมวลชน นายกรัฐมนตรีขอให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ซึ่งหากมีการละเมิดกฎหมายก็จะถูกดำเนินการ 

 

Produced by VoiceTV