ศาลเผยนโยบายปี 55 ดูแลเสมอภาคทุกสีเสื้อ
ศาลยุติธรรมเผยนโยบายศาลปี 2555 ในส่วนความขัดแย้งทางการเมือง ทุกสีจะได้รับการดูแลเสมอภาคเท่เทียมกัน พร้อมทำงาน 7 วัน และบางศาลเปิดทำการในเวลากลางคืนด้วย
นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงแนวนโยบายการทำงานของศาลยุติธรรมในปี 2555 ว่า สำนักงานศาลยุติธรรมจะสนับสนุนการดำเนินงานให้สอดรับกับนโยบายของนายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา เกี่ยวกับการเร่งรัดการพิจารณาคดีที่ขึ้นสู่ศาลที่มีจำนวนมากให้สำเร็จ ลุล่วงไปด้วยความรวดเร็ว และเป็นธรรม เตรียมความพร้อมรับมือกับคดีหรือข้อพิพาทที่เกิดขึ้นด้วยการใช้วิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และการระงับข้อพิพาททางเลือกก่อนที่จะเกิดการฟ้องร้องในชั้นศาล
ในส่วนความขัดแย้งทางการเมืองนั้น ศาลยุติธรรมขอย้ำว่า หากคดีเหล่านี้ขึ้นสู่ศาลเมื่อใด ไม่ว่าจะเป็นสีเสื้ออะไรก็ตาม ศาลยุติธรรมจะทำให้เป็นสีขาวทั้งหมด ศาลยุติธรรมจะไม่ดูว่าเป็นสีอะไรทั้งนั้น ทุกสีจะได้รับการดูแลเสมอภาคเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ในปี 2555 ศาลยุติธรรมเริ่มทำงาน 7 วัน โดยไม่มีวันหยุด โดยเปิดทำการนอกเวลาราชการปกติ บางศาลเปิดทำการในเวลากลางคืน คือ ตั้งแต่เวลา 16.30 – 20.30 น. บางศาลเปิดทำการในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ เนื่องจากศาลยุติธรรมทราบดีว่า การเป็นคดีความเป็นเรื่องที่สร้างความทุกข์ทรมานให้แก่ประชาชน ศาลยุติธรรมจึงพร้อมที่จะทำงานหนักต่อไป เพื่อยึดถือประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง
ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ โฆษกศาลยุติธรรม เผยถึงสถิติการอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวในคดีอาญาของผู้ต้องหา จำเลย ในศาลชั้นต้น ตั้งแต่เดือน ม.ค.– ต.ค.54 ว่า จากที่สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานยุติธรรมรวบรวมไว้ พบว่า มีจำเลยสัญชาติไทยยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวต่อศาลชั้นต้นทั่วราชอาณาจักร จำนวน 188,565 เรื่อง และจำเลยสัญชาติอื่นๆ 1,884 เรื่อง รวม 190,449 เรื่อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวคนไทย จำนวน 175,268 เรื่อง สัญชาติอื่นๆ 1,382 เรื่อง รวมเป็น 176,650 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 92.75 จากสถิติดังกล่าวเห็นได้ว่า ศาลยุติธรรมดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีโดยคำนึงถึงสิทธิและเสรีภาพของผู้ต้องหาและจำเลยเป็นสำคัญ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิด ศาลจะถือเป็นหลักเสมอในการให้ผู้ต้องหา และจำเลยได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ส่วนการยกคำร้องหรือไม่อนุญาตนั้น ต้องปรากฏเหตุตามข้อยกเว้นที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ศาลจะพิจารณาโดยเคร่งครัด โดยอยู่ภายใต้กรอบแห่งกฎหมายและสอดคล้องกับหลักการสากล.
Source : News Center / Thairath / chaoprayanews.com (Image) |