แนวคิดจัดการคนล้นงาน ของศปภ.ภาคประชาชน
 ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากที่มูลนิธิกระจกจัดตั้งศูนย์ศปภ.ภาคประชาชน เพื่อแบ่งเบาหน้าที่ของศูนย์ศปภ.ของรัฐบาล เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ
โดยเปิดรับอาสาสมัครเข้ามาช่วยงาน ซึ่งมีจิตอาสาจำนวนหลายพันคนเดินทางมาที่สนามบินดอนเมือง จนเกิดบรรยากาศชุลมุนวุ่นวาย นายสมบัติ บุญงามอนงค์ในฐานะผู้ก่อตั้งมูลนิธิกระจกเงา ได้ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดในการบริหารจัดการกล่มอาสา
สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือรู้จักในนาม บก.ลายจุด ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิกระจกเงา รวมทั้ง ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคประชาชน ที่สนามบินดอนเมือง เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้ผู้ประสบภัยได้ประสานขอความเชื่อ โดยภาระกิจนี้สามารถช่วยภาครัฐได้อย่างบูรณาการ จาการจัดตั้งศปภ.ภาคประชาชนนี่เอง ทำให้คลื่นพลังจิตอาสาจำนวนมาก ไหลท่วมสนามบินดอนเมือง จนเกิดภาวะคนล้นงาน
การบริหารจัดการจิตอาสาหลายพันคนนับว่าเป็นเรื่องยาก ที่สมบัติ บุญงามอนงค์ยอมรับ โดยเฉพาะการสร้างความเข้าใจในภาพรวมของสถานการณ์และภาระหน้าที่ของจิตอาสา ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมา ยังขาดอาสาสมัครลงพื้นที่และกลุ่มอาสาที่เข้ามาช่วยงานแบบต่อเนื่อง
มุมมองอีกด้านของความวุ่นวายจากภาวะคนล้นงาน สมบัติ บุญงามอนงค์ มองว่า จะเป็นบทเรียนที่ดีให้รัฐบาลมีแนวทางจัดตั้งศูนย์กลางประสานความช่วยเหลือในครั้งต่อไป และพลังอาสาสมัครครั้งนี้แสดงให้ภาครัฐควรมีนโยบายส่งเสริมการทำงานของภาคประชาสังคมด้วย
ทั้งนี้ สมบัติ บุญงามอนงค์ แสดงความคิดเห็นว่า รัฐบาลควรจัดตั้งสภาภัยพิบัติ โดยเชิญตัวแทนจากหน่วยงานที่มีความชำนาญในการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และต้องเปิดพื้นที่ให้ภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการวางแผนช่วยเหลือ เพราะเชื่อว่าพลังอาสาสมัครเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
Produced by VoiceTV
|
