นายกมั่นใจเศรษฐกิจโตร้อยละ5

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ปีนี้เป็นปีแห่งความท้าทายและฟื้นฟูความมั่นใจของประเทศ โดยมั่นใจว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทย  จะเติบโตได้ร้อยละ 5    ในการสัมมนา "ถอดรหัสGDP ปี55" ของสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ  นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ"มุมมองเศรษฐกิจปี55" ว่า ปีนี้ไทยต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงสำคัญ 3 ประการ คือ ความเปราะบางทางเศรษฐกิจของสหรัฐและยุโรป , ความผันผวนของค่าเงินบาท และความเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามมากเป็นพิเศษคือ ภัยธรรมชาติ โดยรัฐบาล ได้ออกพระราชกำหนดเงินกู้ 3 แสน 5 หมื่นล้านบาท เพื่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วม และเตรียมงบประมาณ1แสน 2  หมื่นล้านบาท เพื่อเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกับนักลงทุนต่างชาติ และพบว่า หากรัฐบาลแก้ปัญหาล่าช้า  นักลงทุนจะไม่มั่นใจ เรื่องการลงทุนในประเทศไทย  จึงขอให้ทุกฝ่ายมองว่า รัฐบาลมีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหา และไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า  ปีนี้เป็นปีของความท้าทายและฟื้นฟูความมั่นใจคนในประเทศและนักลงทุนต่างประเทศ  ซึ่งรัฐบาล เตรียมกอบกู้ความมั่นใจ ใน 3  ด้าน ได้แก่ การกระจายความเสี่ยงเรื่องการส่งออก โดยเน้นไปยังตลาดใหม่ ,เดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน , และลดต้นทุนภาคการขนส่ง  จากปัจจุบันต้นทุนการขนส่งยังสูงถึงร้อยละ18ของจีดีพี โดยปีนี้รัฐบาลตั้งเป้าหมายอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีที่ร้อยละ5   นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมเเห่งประเทศไทย มั่นใจว่า จีดีพีปีนี้ จะขยายตัวตามเป้า เพราะเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง  เห็นได้จากยอดการผลิตรถยนต์ที่มากกว่าเเผนที่วางไว้, ยอดการสั่งซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมดีขึ้น , ความชัดเจนในการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำแบบถาวร รวมทั้งมีนักลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมซื้อที่ดินในนิคมฯเพิ่มขึ้น  สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนมีความมั่นใจลงทุนในไทย และผลักดันจีพีไทยให้โตตามเป้าหมายได้   สอดคล้องกับนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ คณะกรรมการยุทธศาสตร์้เพื่อการฟื้นฟูเเละสร้างอนาคตประเทศ หรือ กยอ. กล่าวว่า รัฐบาลมาถูกทางแล้ว ที่มีแผนการบริหารจัดการน้ำระยะยาว เเต่ต้องทำให้สำเร็จตามแผนที่วางไว้ ส่วนเศรฐกิจจะขยายตัวได้ตามเป้าที่วางไว้หรือไม่  ขึ้นอยู่กับความมั่นใจของนักลงทุน  โดยคาดว่า  ช่วงต้นปีเศรษฐกิจไทย  จะมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าปกติ แต่จะฟื้นตัวชัดเจนในไตรมาสที่3 และ 4   นอกจากนี้  รัฐบาลควรเร่งสร้างแรงจูงใจด้านการลงทุนให้มากขึ้น โดยเฉพาะการย้ายฐานการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์  โดยรัฐบาลต้องเร่งสร้างจุดแข็งให้นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงลงทุนในไทยต่อไป   นายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร บอกว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ จะขยายตัวไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา  เพราะมีหลายปัจจัยที่เอื้อต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งการเลื่อนหลักเกณฑ์การให้สินเชื่อ ต่อมูลค่าหลักประกันของธนาคารแห่งประเทศไทยออกไปอีก1ปี ,การขยายเวลาบังคับใช้ผังเมืองใหม่  รวมทั้งการเลื่อนประกาศราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์   Produced by Voice TV

URL: http://news.voicetv.co.th/business/29661.html