อนามัยโลกหนุนไทยขึ้นภาษียาสูบ
องค์การอนามัยโลก สนับสนุนไทย ขึ้นภาษียาสูบร้อยละ 80 เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ และลดจำนวนนักสูบหน้าใหม่ ซึ่งหากใช้มาตรการนี้ จะทำให้ราคาบุหรี่ขั้นต่ำเพิ่มเป็นซองละ 40 บาท ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ยาสูบ องค์การอนามัยโลก กล่าวสนับสนุนนโยบายการขึ้นภาษียาสูบของรัฐบาลไทย ว่า เป็นมาตรการที่ดี เพราะช่วยป้องกันการเพิ่มจำนวนนักสูบหน้าใหม่ เพิ่มรายได้ให้รัฐ และเป็นประโยชน์ในด้านสาธารณสุข โดยข้อมูลในประเทศกำลังพัฒนา รวมทั้งประเทศไทย พบว่าต้นทุนที่ต้องสูญเสียทางเศรษฐกิจ รวมทั้งค่ารักษาพยาบาลเพราะการบริโภคยาสูบ สูงกว่ารายได้ของรัฐที่ได้จากภาษีในส่วนนี้ ด้านทันตแพทย์หญิงศิริวรรณ พิทยรังสฤษฏ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ หรือ ศจย. กล่าวว่า อัตราการเก็บภาษีที่ควรปรับเพิ่ม คือการเก็บภาษีหน้าโรงงาน ซึ่งเห็นว่าควรปรับเป็นร้อยละ 87 หรือเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 2 และควรพิจารณาเก็บภาษีตามสภาพ หรือตามปริมาณ โดยบุหรี่ซอง ควรเก็บภาษีมวนละ 1 บาท 25 สตางค์เพิ่มเติมด้วย หากใช้แนวคิดนี้ จะทำให้ราคาบุหรี่เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันซองละ 25 บาทเป็น 40 บาท ส่วนยาเส้นควรเก็บที่ 7 สตางค์ต่อกรัม ซึ่งจะทำให้ราคาเพิ่มจากซองละ 5 บาทเป็น 6 บาท 50 สตางค์ และเชื่อว่าจะทำให้จำนวนผู้สูบและปริมาณการสูบในแต่ละครั้งลดลง ด้านศาสตรจารย์นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการควบคุมการบริโภคยาสูบแห่งชาติกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในปี 2553 รัฐมีรายได้จากการเก็บภาษียาสูบ ในอัตราร้อยละ 85 รวมกว่า 50,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเมื่อ 10 ปีก่อน ที่เก็บในอัตราร้อยละ 71.5 ถึง 28,000 ล้านบาท จึงเห็นว่ารัฐบาลควรให้ความสำคัญเรื่องการขึ้นภาษีและปรับโครงสร้างภาษียาสูบ Produced by Voice TV |