| บริษัทที่ให้คำปรึกษาด้านการตลาด เปิดตัวแคมเปญใหม่ โดยให้คนไร้บ้านเป็นเหมือนจุดเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ต ให้แก่ผู้ที่ต้องการใช้อินเทอร์เน็ตในเมืองออสติน สหรัฐอเมริกา ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า แคมเปญดังกล่าวเอารัดเอาเปรียบกลุ่มคนไร้บ้านมากเกินไป ปัจจุบันการทำการตลาดในวงการเทคโนโลยีโดยเฉพาะการให้บริการอินเทอร์เน็ต มีการแข่งขันที่สูงมาก โดยแต่ละบริษัทต่างก็พยายามหากลยุทธ์และจุดขายที่แตกต่างเพื่อดึงดูดใจลูกค้า และล่าสุด แคมเปญที่จัดทำโดยบริษัทที่ให้คำปรึกษาด้านการตลาดชื่อดังอย่างบีบีเอช ก็กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และกลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์โดยทันทีหลังจากที่เปิดตัวแคมเปญนี้ได้ไม่นาน เนื่องจากมีการนำคนไร้บ้าน มาเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญนี้ โดยให้พวกเขาเป็นเหมือนตัวส่งสัญญาณไวไฟ ให้แก่ผู้ที่ต้องการใช้อินเทอร์เน็ตในเมืองออสติน มลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา แคมเปญที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว มีชื่อว่า Homeless Hotspots โดยบีบีเอชได้นำอุปกรณ์สื่อสาร พร้อมกับนามบัตร มามอบให้กับคนไร้บ้าน 13 คน โดยแต่ละคนก็จะสวมเสื้อยืดที่สกรีนชื่อของตัวเอง พร้อมกับคำว่า "a 4G Hotspot" ซึ่งผู้ที่ต้องการใช้อินเทอร์เน็ต ก็สามารถพิมพ์ข้อความและส่งไปได้ตามที่อยู่ที่สกรีนบนเสื้อ จากนั้นก็จะใช้อินเทอร์เน็ตได้ โดยคิดค่าบริการครั้งละ 2 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ 15 นาที ซึ่งเงินจำนวนนี้ จะมอบให้แก่คนไร้บ้านโดยตรง นอกเหนือจากค่าจ้างที่ได้รับวันละ 20 ดอลลาร์สหรัฐฯหรือประมาณ 600 บาท อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า แคมเปญดังกล่าวเป็นการเอารัดเอาเปรียบคนไร้บ้านมากเกินไป และอาจเป็นชนวนเหตุของปัญหาในระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นได้ ขณะที่ ตัวแทนของบริษัทบีบีเอช ก็ออกมายืนยันว่า สิ่งที่ทางบริษัททำอยู่นั้น ไม่ได้เอาเปรียบกลุ่มคนไร้บ้านอย่างแน่นอน แต่ในทางตรงกันข้าม กลับเป็นการช่วยเหลือให้กลุ่มคนไร้บ้าน ได้มีพื้นที่ในสังคมมากขึ้น ขณะเดียวกัน คนที่เดินผ่านไปมา ก็จะได้มีโอกาสในการทำความเข้าใจ และได้เรียนรู้เรื่องราวของคนแปลกหน้า ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นส่วนเกินของสังคม ทางด้านของคลาเรนซ์ โจนส์ ผู้ที่ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน หลังจากที่พายุเฮอริเคนแคทรินาพัดถล่มบ้านของเขาในเมืองนิว ออร์ลีนส์ ก็ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์สว่า หลายคนอาจมองว่า พวกเขาอาจก่อความรุนแรง หรือทำร้ายร่างกายลูกค้าหากไม่พอใจ แต่เขากลับไม่รู้สึกเช่นนั้น เพราะเขาคิดว่า นี่คืองานที่สุจริต และเขาก็รักในสิ่งที่เขาทำ โดยมีความสุขทุกๆครั้งที่ได้พูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนแปลกหน้า ดังนั้น แคมเปญนี้จึงถือว่ามีประโยชน์ต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก Produced by VoiceTV |