วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2555

คณะนิติราษฎร์เดินหน้าต่อ

คณะนิติราษฎร์เดินหน้าต่อ

ผู้ต้องหาทำร้าย นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ นักวิชาการคณะนิติราษฎร์ เข้ามอบตัวแล้ว โดยระบุว่าไม่พอใจการออกมาเคลื่อนไหวแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 

 

จากเหตุการณ์คนร้ายที่บุกเข้าไปทำร้ายนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1 ในนักวิชาการคณะนิติราษฎร์ถึงภายในบริเวณมหาวิทยาลัย ซึ่งในวันนี้ (1มี.ค.55) มีกลุ่มประชาชนที่สนับสนุนกลุ่มนิติราษฎร์เดินทางมาให้กำลังใจและมอบดอกไม้ โดยมีนายปิยบุตร แสงกนกกุล และนายปูนเทพ ศิรินุพงศ์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ และเป็นนักวิชาการคณะนิติราษฎร์เป็นตัวแทนรับมอบดอกไม้แทน โดยทางกลุ่มประชาชนในนามเวปไซด์ไทยฟรีนิวส์ และกลุ่มสื่อประชาชนที่สนับสนุน ได้อ่านแถลงการณ์ประณามผู้ที่กระทำความผิด พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาล ลงโทษเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างทางสังคม

 

ขณะที่นายปิยบุตรกล่าวว่า ฝากผู้ที่มีแนวคิดที่แตกต่างหรือไม่เห็นด้วยใช้ความอดทนอดกลั้นให้มาก อย่าแสดงออกด้วยความรุนแรง และขอยืนยันว่าคณะนิติราษฎร์ จะไม่หยุดเคลื่อนไหวแม้จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมาก็ตาม

 

และในวันนี้ ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย นายวรเจตน์ ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าพนักงานที่ สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม ก่อนถูกนำไปรายงานตัวที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยคนร้าย 2 คน เป็นชายฝาแฝด อายุ 30 ปี ชื่อ นายสุพจน์ และนายสุพัฒน์ ศิลารัตน์ มีอาชีพค้าขาย โดยวันก่อเหตุได้ไปดักรอ นายวรเจตน์ ที่คณะนิติศาสตร์ตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนเริ่มลงมือในช่วงบ่าย

 

และทั้งสองให้การสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง เนื่องจากไม่พอใจและเห็นต่างจากคณะนิติราษฎร์ที่เสนอให้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แต่ไม่ได้รับจ้างฝ่ายใดมาทำร้ายนายวรเจตน์ โดยยืนยันว่าไม่ได้สังกัดสีกลุ่มการเมืองใด ขณะที่พลตำรวจโทวินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตราย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท โดยบทลงโทษขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล และต้องรอผลตรวจร่างกายของนายวรเจตน์อีกครั้ง 

 

ต่อมาในช่วงบ่าย สถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามได้เรียกตัวผู้ต้องหาสอบสวนเพิ่มเติม และเรียกพยาน 2 คนที่เห็นเหตุการณ์มาชี้ตัวผู้ต้องหา ก่อนปล่อยตัวกลับไป เนื่องจากคนร้ายเป็นฝ่ายมอบตัว โดยระหว่างนี้จะต้องรอผลตรวจร่างกายของนายวรเจตน์อีกครั้ง ก่อนส่งสำนวนฟ้องศาล

 

Produced by VoiceTV