สถานการณ์น้ำแข็งแอนตาร์กติก
| สถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งชาติ ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติในแอนตาร์กติก หรือขั้วโลกใต้ ที่องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เพื่อเป็นการส่งเสริมความรู้และความจำเป็นที่ต้องเข้าไปวิจัยสภาพแวดล้อมที่แอนตาร์กติก
องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ และ สถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งชาติประเทศญี่ป่น ร่วมกับจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย เปิดนิทรรศการแอนตาร์กติก โลกเก่าสู่การค้นพบโลกใหม่ เพื่อแสดงให้เห็นความสำคัญของการวิจัยทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะขั้วโลกใต้
ทั้งนี้ ในงานนิทรรศการแอนตาร์กติกครั้งนี้ ได้แสดงถึงเหตุผลในการเข้าไปวิจัยสภาพแวดล้อมของแอนตาร์กติก เนื่องจากแอนตาร์กติกเป็นแหล่งข้อมูลทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ที่สุด แต่ถูกฝังอยู่ในทะเลและน้ำแข็ง แต่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งสะสมของก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในทวีปแอนตาร์กติกได้ชัดเจน เบื้องต้นมีนักวิจัยไทย 2 คนได้เข้าร่วมกับ 48ประเทศ สนธิสัญญาแอนตาร์กติก เพื่อเข้าไปวิจัยขุดเจาะประมาณ 3,000 เมตร ซึ่งสามารถบอกสภาพภูมิอากาศย้อนหลังได้ถึง 700,000 ปี โดยในอนาคตหากทำวิจัยเสร็จสิ้น สามารถนำผลวิจัยมาคำนวนสภาพอากาศของโลก
ปัจจุบันจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วรวมถึงการสะสมก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้ธารน้ำแข็งในแอนตาร์กติกหนาขึ้นและกว้างขึ้น โดยในฤดูร้อนปี 2555 ธารน้ำแข็งมีความหนามากกว่าปี 2554 ประมาณ 2 เมตร ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตที่แอนตาร์กติก เช่น แมวน้ำ และแพนกวิน เริ่มดำรงชีวิตได้ยากขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้สัตว์ทั้งสองประเภทสูญพันธุ์ได้
Produced by VoiceTV |