วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555

สถานการณ์น้ำแข็งแอนตาร์กติก

สถานการณ์น้ำแข็งแอนตาร์กติก

สถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งชาติ ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติในแอนตาร์กติก หรือขั้วโลกใต้ ที่องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เพื่อเป็นการส่งเสริมความรู้และความจำเป็นที่ต้องเข้าไปวิจัยสภาพแวดล้อมที่แอนตาร์กติก  

 

องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ และ สถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งชาติประเทศญี่ป่น ร่วมกับจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย เปิดนิทรรศการแอนตาร์กติก โลกเก่าสู่การค้นพบโลกใหม่ เพื่อแสดงให้เห็นความสำคัญของการวิจัยทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะขั้วโลกใต้


นายคาร์ซูยูกิ ชิราชิ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งชาติ ประเทศญี่ปุ่น กล่าวถึงสถานการณ์น้ำแข็งในขั้วโลกเหนือว่า น้ำแข็งขั้วโลกเหนือได้ละลายมากขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มมากขึ้นด้วยแต่ทำให้การเดินเรือในเขตเอเชียสะดวกขึ้น ส่วนน้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้ ยังไม่ส่งผลชัดเจนว่าจะมีผลกระทบอย่างไร ซึ่งต้องทำการศึกษาต่อไป 

 

ทั้งนี้ ในงานนิทรรศการแอนตาร์กติกครั้งนี้ ได้แสดงถึงเหตุผลในการเข้าไปวิจัยสภาพแวดล้อมของแอนตาร์กติก เนื่องจากแอนตาร์กติกเป็นแหล่งข้อมูลทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ที่สุด แต่ถูกฝังอยู่ในทะเลและน้ำแข็ง แต่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งสะสมของก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในทวีปแอนตาร์กติกได้ชัดเจน เบื้องต้นมีนักวิจัยไทย 2 คนได้เข้าร่วมกับ 48ประเทศ สนธิสัญญาแอนตาร์กติก เพื่อเข้าไปวิจัยขุดเจาะประมาณ 3,000 เมตร ซึ่งสามารถบอกสภาพภูมิอากาศย้อนหลังได้ถึง 700,000 ปี โดยในอนาคตหากทำวิจัยเสร็จสิ้น สามารถนำผลวิจัยมาคำนวนสภาพอากาศของโลก

 

ปัจจุบันจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วรวมถึงการสะสมก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้ธารน้ำแข็งในแอนตาร์กติกหนาขึ้นและกว้างขึ้น โดยในฤดูร้อนปี 2555 ธารน้ำแข็งมีความหนามากกว่าปี 2554 ประมาณ 2 เมตร ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตที่แอนตาร์กติก เช่น แมวน้ำ และแพนกวิน เริ่มดำรงชีวิตได้ยากขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้สัตว์ทั้งสองประเภทสูญพันธุ์ได้

 

Produced by VoiceTV