"เผาตัวตายประท้วง" ได้ผลจริงหรือ?
 ในรอบไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ข่าวการประท้วงเผาตัวเองของพระชาวทิเบตปรากฎเป็นข่าวในสื่อทั่วโลกอยู่บ่อยครั้ง แต่การประท้วงด้วยวิธีที่สุดโต่งเช่นนี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นวิธีการที่ไม่สามารถนำความสงบและสิทธิเสรีภาพมาสู่ชาวทิเบตได้อย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าภาพข่าวที่พระหรือแม่ชีชาวทิเบตจุดไฟเผาตนเอง พร้อมตะโกนข้อความเรียกร้องเอกราช จะได้ผลเป็นอย่างดีในการเรียกร้องความสนใจและความเห็นใจจากนานาชาติที่มีต่อขบวนการเรียกร้องอิสรภาพของทิเบต แต่หลายฝ่ายกลับตั้งคำถามต่อการประท้วงด้วยวิธีนี้ ว่าไม่ได้ส่งผลทางการเมืองอย่างเป็นรูปธรรมต่อสถานภาพของทิเบต และยังเป็นการละเมิดหลักการทางพุทธศาสนาและการต่อสู้โดยวิธีอหิงสาที่ดาไลลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบตยึดมั่นมาตลอดหลายสิบปีอีกด้วย การแสดงออกทางการเมืองโดยวิธีเผาตัวตาย ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในทิเบต แต่ถูกใช้อย่างแพร่หลายในการประท้วงทั่วทุกมุมโลก และหลายครั้งได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองที่สำคัญ โดยล่าสุด ในเหตุการณ์อาหรับสปริงเมื่อปีที่ผ่านมา การเผาตัวตายประท้วงของพ่อค้าแผงลอยในตูนิเซียเพียงคนเดียว ได้กลายเป็นชนวนเหตุที่ก่อให้เกิดการลุกฮือขึ้นต่อต้านระบอบการปกครองที่กดขี่ทั่วทั้งโลกอาหรับ แต่สำหรับกรณีของทิเบต นับตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา มีพระและแม่ชีชาวทิเบตเผาตัวเองไปแล้วถึงกว่า 29 ราย และเฉพาะในเดือนมีนาคมนี้ มีชาวทิเบตเผาตัวเองประท้วงถึง 7 ราย แต่การพลีชีพเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลใดๆต่อนโยบายของรัฐบาลจีนที่มีต่อทิเบต โดยรัฐบาลจีนยังคงเรียกผู้ประท้วงเหล่านี้ว่า "ผู้ก่อการร้าย" และสั่งกวาดล้างคลิปวีดีโอหรือรูปภาพที่เผยแพร่การเผาตัวตายดังกล่าวอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้มีการนำภาพเหล่านี้ไปใช้สร้างกระแสปลุกระดมในหมู่ชาวทิเบตต่อไป ในส่วนของประชาชนในทิเบตเอง ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการเรียกร้องทางการเมืองโดยวิธีการสุดโต่งเช่นนี้ เนื่องจากในวัฒนธรรมของพุทธศาสนา ซึ่งถือเป็นหลักในการดำเนินชีวิตของชาวทิเบต การใช้ความรุนแรง และการฆ่าสัตว์ โดยเฉพาะการฆ่าตัวตาย ถือเป็นบาปหนักที่สุดชนิดหนึ่ง โดยสังเกตได้ว่า พระและแม่ชีที่เผาตัวเองประท้วงมักอยู่ในช่วงวัยรุ่น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ใช้วิธีดังกล่าวเป็นเพียงประชาชนรุ่นหลังกลุ่มเล็กๆ ที่หมดความอดทนกับวิธีอหิงสาของดาไลลามะเท่านั้น ถึงแม้ว่าการเผาตัวเองประท้วงจะไม่ได้ผลนักในแง่ของการสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือสร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลกลางของจีน แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า แนวทางที่สุดโต่งเช่นนี้ เป็นการสื่อสารทางการเมืองที่ทรงพลังและแสดงถึงการไม่ยอมแพ้ต่อการกดขี่ของชาวทิเบต ซึ่งเป็นสิ่งที่ดูเหมือนจะขาดหายไปในแนวทางการต่อสู้ตามหลักอหิงสาของดาไลลามะ Produced by Voice TV |
