วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2555

มองภารกิจซูจี-อนาคต NLD หลังการเลือกตั้ง

มองภารกิจซูจี-อนาคต NLD หลังการเลือกตั้ง

การประกาศผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการของคณะกรรมการการเลือกตั้งพม่าในวันนี้ ทำให้เป็นที่แน่นอนแล้วว่าพรรค NLD จะได้ครองที่นั่งในสภาอย่างน้อย 40 ที่นั่ง แต่ชัยชนะดังกล่าว เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่นำนางซูจีและพรรคเข้าสู่สนามการเมืองที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยความขัดแย้งของพม่า

 

ชัยชนะอย่างถล่มทลายของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ NLD ของนางอองซาน ซูจี ในการเลือกตั้งซ่อมครั้งประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา สร้างบรรยากาศแห่งความหวังและการเริ่มต้นของประชาธิปไตยทั้งในหมู่ประชาชนในประเทศผู้สนับสนุนพรรค NLD และรัฐบาลนานาชาติที่จับตามองการปฏิรูปประเทศของรัฐบาลพม่าอย่างใกล้ชิด



อย่างไรก็ตาม บรรยากาศแห่งชัยชนะที่สวยหรูนี้อาจจะคงอยู่ไม่นานนัก เมื่อพิจารณาว่าอนาคตที่รอนางซูจีและพรรค NLD อยู่เต็มไปด้วยอุปสรรคและความท้าทายหลายประการ ทั้งในฐานะที่ NLD จะกลายเป็นพรรคฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการที่มีเสียงเพียงน้อยนิดในสภาเมื่อเทียบกับพรรครัฐบาลที่มีทหารหนุนหลัง และในการที่นางซูจีจะต้องลงมาเล่นบทบาทนักการเมืองอย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก หลังจากอยู่ในสถานะวีรสตรีและสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศมากว่า 20 ปี



นางสุภัตรา ภูมิประพาส สื่อมวลชนอิสระ และหนึ่งในคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตยในพม่า  ให้ความเห็นว่า นโยบายต่างๆที่พรรค NLD ใช้ในการหาเสียง ล้วนเป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ เนื่องจากแต่ละนโยบายเป็นประเด็นใหญ่ ที่รัฐบาลไม่น่าจะยินยอมให้นางซูจีได้ทำตามที่หาเสียงไว้ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยตัวนักโทษการเมืองอีกกว่า 900 คน หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อฝ่ายทหารที่กุมอำนาจอยู่เบื้องหลังรัฐบาลอย่างแน่นอน

 

นอกจากนี้ จุดแข็งสำคัญของนางซูจี คือการมีบทบาทเป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ  ก็ถูกบดบังโดยผลงานรัฐบาล ที่ก่อนหน้านี้ได้เปิดการเจรจาและลงนามในสนธิสัญญาสงบศึกกับกลุ่มกองกำลัง ติดอาวุธต่างๆไปแล้ว เช่นเดียวกับนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจของพรรค NLD ที่ไม่ได้รับความสำคัญเท่าที่ควร เนื่องจากรัฐบาลของพลเอกเต็ง เส่ง ก็กำลังเดินหน้านโยบายปฏิรูปและนโยบายประชานิยม เพิ่มสวัสดิการและค่าแรงให้กับชาวพม่าอย่างต่อเนื่อง



ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นการยากอย่างยิ่ง ที่พรรคของนางซูจีจะมีผลงานที่เป็นรูปธรรมเพื่อนำไปใช้หาเสียงในการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งจะมีขึ้นในปี 2558 ในขณะที่พรรค USDP ของพลเอกเต็ง เส่ง ได้เปรียบอย่างมากในฐานะรัฐบาลที่เป็นผู้ริเริ่มการปฏิรูปประเทศและสร้างความสมานฉันท์ทางการเมือง ซึ่งข้อได้เปรียบนี้ อาจทำให้เส้นทางสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไปของพม่าของนางซูจี อาจไม่ราบรื่นเท่าที่คิด

 

Produced by VoiceTV