วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ไอซีซีออกหมายจับกัดดาฟีและพวก

ศาลอาญาระหว่างประเทศมั่นใจว่า หลักฐานทั้งหมดที่มีอยู่ เพียงพอที่ทำให้เชื่อได้ว่า พันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟีและบุตรชาย รวมถึงหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับของลิเบีย มีความผิดฐานก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ  

 

ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือไอซีซี ตัดสินให้ออกหมายจับพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี ประธานาธิบดีลิเบียและบุตรชาย นายซาอีฟ อัล-อิสลาม กัดดาฟี รวมถึงนายอับดุลลาห์ อัล-เซนุสซี่ หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับของลิเบีย ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องเขยของพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี ในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ หลังจากที่ลิเบียสั่งปราบปรามฝ่ายต่อต้านรัฐบาลอย่างหนัก ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา


อย่างไรก็ตาม แม้ไอซีซีจะออกหมายจับ แต่พันเอกกัดดาฟีและพวกยังเป็นเพียงผู้ต้องหา ซึ่งยังไม่มีการพิสูจน์ความผิด จนกว่ากระบวนการพิจารณาคดีในศาลจะสิ้นสุดลง แต่อย่างไรก็ตาม จากหลักฐานทั้งหมด ที่นายหลุยส์ โมเรโน่ โอคัมโป้ พนักงานอัยการรวบรวมมา ก็พอจะน่าเชื่อถือได้ว่า ทั้งสามมีความผิดฐานฆาตกร สังหารพลเรือน และก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ


ขณะที่ นายโมฮัมเหม็ด อัล-กามูดี้ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของลิเบียกล่าวว่า ลิเบียจะไม่ยอมรับคำตัดสินใดๆจากไอซีซี เพราะไอซีซีคือเครื่องมือที่โลกตะวันตกใช้กำจัดผู้นำในประเทศโลกที่สาม อีกทั้งพันเอกกัดดาฟีและบุตรชาย ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับรัฐบาลลิเบีย ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขึ้นศาลตามหมายจับ


การออกหมายจับผู้นำลิเบียและพวกในครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งที่สอง ที่ศาลอาญาระหว่างประเทศออกหมายจับผู้นำประเทศ ซึ่งครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2552 โดยประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาชีร์แห่งซูดาน ถูกตั้งข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์  ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และอาชญากรสงคราม กับเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในแคว้นดาร์ฟูร์ แต่จนถึงปัจจุบันนี้ นายอัล-บาชีร์ยังคงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของซูดานอยู่และยังไม่ถูกจับกุมตัวแต่อย่างใด

 

Produced by VoiceTV