วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ภาพสมอง 3 มิติขณะที่มนุษย์ไร้สติ

ทีมวิจัยมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ คิดค้นเครื่องสแกนสมองที่สามารถประมวลผลออกมาเป็นภาพวิดีโอ 3 มิติ เพื่อพิสูจน์ทฤษฎีที่ว่า สมองของมนุษย์ทำงานเปลี่ยนไป เมื่ออยู่ในภาวะไร้สติ 

 

นักวิจัยชาวอังกฤษคิดค้นเครื่องสแกนสมอง ที่ประมวลผลออกมาเป็นภาพวิดีโอ 3 มิติ หรือ ไฟเตอร์ (fEITER) ซึ่งย่อมาจาก 'functional electrical impedance tomography by evoked response' โดยจุดประสงค์หลักของการประดิษฐ์เครื่องนี้ขึ้นมาก็เพื่อเป็นการพิสูจน์ทฤษฎีที่ว่า สมองของมนุษย์จะทำงานเปลี่ยนไป เมื่ออยู่ในภาวะที่ไร้สติ

 

ศาสตราจารย์ไบรอัน พอลลาร์ด และศาสตราจารย์ฮิวจ์ แมคแคน หัวหน้าทีมวิจัยมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ กล่าวว่า จากภาพวิดีโอที่บันทึกไว้ จะเห็นได้ว่า เวลาคนเราไร้สติ จะมีผลกระทบโดยตรงต่อกระแสไฟฟ้าในแกนสมองส่วนลึก โดยกลุ่มเส้นประสาทจะทำงานในรูปแบบที่ต่างออกไป ส่งผลให้เกิดการขัดขวางการสื่อสารภายในส่วนต่างๆของสมองอย่างเห็นได้ชัด

 

โดยวิธีที่เขาใช้ในการสแกนสมองนั้น ทำได้โดยการส่งกระแสไฟฟ้าความถี่ต่ำ ผ่านขั้วไฟฟ้าสองขั้วผ่านไปยังสมอง โดยกระแสไฟฟ้านี้ ไม่ได้มีผลกระทบต่อร่างกายและสมองของผู้ที่เข้าร่วมการทดลอง จากนั้นเครื่องก็จะทำการสแกนสมองด้วยความเร็ว 100 ครั้งต่อวินาที ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากการสแกนสมองจะถูกนำมาประกอบเป็นภาพสามมิติต่อไป

 

ก่อนหน้านี้ ศาสตราจารย์ซูซาน กรีนฟีลด์ จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด เคยตั้งสมมติฐานไว้ว่า การมีสติหรือการไร้สติของมนุษย์ ขึ้นอยู่กับว่า กลุ่มเซลล์สมองทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ โดยศาสตราจารย์ซูซานเปรียบเทียบว่า สมองมนุษย์ก็เหมือนสวิทช์ไฟ มีเปิดและมีปิด เมื่อสวิทช์ปิด กลุ่มเซลล์ประสาทบางกลุ่มก็จะทำงานน้อยลง และยังไปขัดขวางการทำงานของกลุ่มเซลล์ประสาทอื่นๆอีกด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์พอลลาร์ด เตรียมพัฒนาการทดลองนี้ ไปสู่การรักษาผู้ป่วยจากอาการบาดเจ็บทางศรีษะ โรคสมองเสื่อม และโรคเส้นเลือดอุดตันในสมอง เป็นต้น ทั้งนี้ ทีมวิจัยมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์คือหนึ่งในหลายทีมในโลก ที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับคลื่นไฟฟ้าในสมอง แต่การทำการทดลองขณะที่มนุษย์อยู่ในภาวะไร้สตินั้น ทีมวิจัยนี้คือทีมแรก ที่มีการศึกษาในเรื่องนี้อย่างจริงจัง

 

Produced by VoiceTV