วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

นโยบายขึ้นเงินเดือนป.ตรี

นายกสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย เสนอรัฐบาลชุดใหม่ให้เร่งหาข้อสรุปความคุ้มครองของผู้ประกันตนระบบประกัน สังคมที่มีสิทธิประโยชน์น้อยกว่าสิทธิ 30 บาทรักษาทุกโรค  พร้อมเสนอให้เพิ่มสวัสดิการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในทุกหน่วยงาน  เพื่อให้พนักงานมีเงินเก็บสำรองไว้ในเกษียณ

 

 

หลังจากที่พรรคเพื่อไทย ออกนโยบายปรับเพิ่มฐานเงินเดือนสำหรับปริญญาจบใหม่ที่ 15,000 บาท ทำเอานักศึกษาที่กำลังร่ำเรียนอยู่ไปจนถึงคนที่ทำงานอยู่แล้วฮือฮากันมาก   เพราะปัจจุบัน ผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีหากเข้าทำงานในบริษัทเอกชนจะได้รับเงินเดือน ขั้นต่ำอย่างน้อย 9,500-12,000 บาท ตามขนาดขององค์กรผู้จ้างงาน  ในขณะที่ผู้ที่ทำงานมาก่อนหน้านี้อาจจะมีเงินเดือนไม่ต่างจากเด็กรุ่นใหม่ ที่มากนัก  เนื่องจากฐานเงินเดือนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างต่ำ  ตามค่าครองชีพที่เป็นอยู่ในขณะนั้น

 

นายฉัตรพงษ์  วงษ์สุข นายกสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย มองว่านโยบายการปรับเงินเดือนสำหรับปริญญาตรีจบใหม่ที่ 15,000 บาทของพรรคเพื่อไทย ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายมากแต่สามารถทำได้ ซึ่งการขึ้นเงินเดือนแต่ละครั้งต้องอาศัยปัจจัยสำคัญหลายประการและที่สำคัญ ต้องขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่มีค่าครองชีพไม่เท่ากันด้วย ไม่ใช่ปรับเพิ่มในอัตราเดียวกันทั่วประเทศ

 

 

นอกเหนือจากการปรับขึ้นเงินเดือนแล้ว นายกสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทยยังได้ฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ที่จะ เข้ามาภายหลังวันที่ 3 กรกฏคมนี้ว่า ควรเข้ามาดูแลสวัสดิการประกันสังคมให้มีความครอบคลุมเช่นเดียวกับบัตร 30บาทรักษาทุกโรค รวมทั้งเสนอแนะให้พนักงานทุกคนเข้าเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพื่อเก็บออมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ เช่นเดียวกับระบบบำเหน็จบำนาญของข้าราชการ

 

บริษัท อเด็คโก้ คอนซัลติ้ง จำกัด ตัวแทนจัดหางานออนไลน์ ได้ออกตัวเลขฐานเงินเดือนคาดการณ์ประจำปี 2554  ในระดับ  Junior Level  คือสตาร์ททำงานตั้งแต่ศึกษาจบปริญญาตรี จนถึง 5 ปี สรุปว่าอาชีพที่มีเงินเดือนเริ่มต้นสูงสุด 3 อันดับแรก คือ อาชีพการใช้ภาษาญี่ปุ่น ที่เพดานสูงสุดอยู่ที่ 1 แสน 5 หมื่นบาทต่อเดือน  อันดับ 2 คือ วิศวกร เพดาน อยู่ที่ 100,000 บาทต่อเดือน อันดับ 3 คือ นักการตลาดและ PR เพดานเงินเดือนอยู่ที่ 75,000 บาทต่อเดือน

 

Produced by Voice TV