วัยรุ่นยูเออีบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยมากที่สุดในโลก

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองดูไบ  รายงาน บริษัทวิจัย AMRB ทำการสำรวจพฤติกรรมการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยของกลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 12-19 ปี ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (Middle East & North Africa : MENA) จำนวน 2,000 คน ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนที่ผ่านมา พบว่าค่าใช้จ่ายของวัยรุ่นในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่อสัปดาห์ประมาณ 100 เหรียญสหรัฐ สูงกว่าอัตราเฉลี่ยการใช้จ่ายของวัยรุ่นทั่วโลกประมาณ 4 เท่า  ทั้งนี้ การใช้จ่ายของวัยรุ่นซาอุดิอาระเบียประเทศที่มั่งคั่งที่สุดในอ่าวอาหรับใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยสัปดาห์ละ 56 เหรียญสหรัฐฯ หรือเทียบกับวัยรุ่นในประเทศที่ประชาชนมีรายได้น้อยอย่างอียิปต์ใช้เงินซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยเพียงสัปดาห์ละ 7 เหรียญสหรัฐฯเท่านั้น โดย วัยรุ่นหญิงยูเออีใช้เงินฟุ่มเฟือยสูงสุด ส่วนวัยรุ่นชายในซาอุดิอาระเบียและอิยิปต์มีพฤติกรรมการบริโภคที่ฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็นใช้เงินมากที่สุด ส่วนวัยรุ่นทั่วโลกนั้นใช้จ่ายเฉลี่ยสัปดาห์ละ 28 เหรียญสหรัฐฯ ผลของการสำรวจดังกล่าวพบว่ากระแสลัทธิบริโภคนิยม (Consumerism) หรือความนิยมบริโภคจับจ่ายใช้สอยมากเกินไปหรือฟุ่มเฟือยเกินความต้องการที่จำเป็นในชีวิตของคนยูเออีนั้นหมดไปกับสินค้าโทรศัพท์มือถือ เกมส์ iPods และอุปกรณ์เสริมต่างๆ นอกจากนั้นยังมีการใช้จ่ายซื้อหาเสื้อผ้าและสันทนาการของแต่ละวันอีกด้วย วิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมานั้นเหมือนว่าจะไม่ได้ส่งผลกระทบกับการจับจ่ายใช้สอยของผู้คนใน MENA เท่าใดนัก มีแนวโน้มว่าปี 2554 วัยรุ่นในกลุ่มประเทศนี้จะใช้จ่ายกันเพิ่มขึ้น เพราะจากผลสำรวจพบว่าจำนวน 62 % ของผู้ถูกสำรวจในยูเออีให้ข้อมูลว่าจะมีค่าใช้จ่ายในปี 2554 เพิ่มมากขึ้น และซาอุดอาระเบียจำนวน 74% ให้ความเห็นว่าค่าใช้จ่ายในปีนี้จะไม่ลดลงเช่นกัน นอกจากการสำรวจในกลุ่มวัยรุ่นแล้ว จากผลการจัดอันดับดัชนีชี้วัดการจำหน่ายปลีกเสื้อผ้า ประจำปี 2553 ของบริษัทให้บริการปรึกษาด้านธุรกิจนานาชาติ A.T. Kearney ได้ออกมาประกาศผลดัชนีการจำหน่ายปลีกเสื้อผ้า หรือ A.T. Kearne Retail Apparel Index ปรากฏว่ายูเออีมียอดการจำหน่ายเสื้อผ้าค้าปลีกต่อประชากรต่อหัวอยู่ที่ 785 เหรียญสหรัฐฯต่อคนเมื่อปี 2553 และยูเออีเป็นตลาดที่น่าสนใจในการจำหน่ายปลีกเสื้อผ้ามากเป็นอันดับสองรองจากประเทศอัฟริกาใต้  ยูเออีเป็นประเทศที่มีความพร้อมทุกๆด้านในการเป็นร้านขายปลีกที่บริษัท "แบรนด์” ที่มีชื่อเสียงใช้เป็นประตูเข้าสู่ภูมิภาคตะวันออกกลางและอัฟริกา เมื่อปี 2553 ห้าง Bloomingdale และ Victoria’s Secret ของสหรัฐฯได้เปิดสาขานอกประเทศในเมืองดูไบเป็นแห่งแรกในภูมิภาคตะวันออกกลาง  ปัจจัยเสริมการค้าการลงทุนจากต่างชาติ โดยแรงสนับสนุนที่สำคัญจะมาจากผู้บริโภคที่มีอำนาจซื้อ นโยบายของรัฐที่เอื้อประโยชน์และสร้างความมั่นใจให้กับการลงทุนต่างชาติ ดังนั้นตลาดยูเออีจึงเป็นตลาดควรที่จะเข้าไปลงทุนทำมาค้าขายหรือไม่ คงขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของนักลงทุนว่า จะให้น้ำหนักความสำคัญกับปัจจัยไหนมากน้อยเพียงไร Source : www.thannews.th.com/AFP (image)