วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

สุขภาพจิต ห่วงคนไทยฆ่าตัวตายสูง เปิดฮอตไลน์ปรึกษา

สุขภาพจิต ห่วงคนไทยฆ่าตัวตายสูง เปิดฮอตไลน์ปรึกษา

กรมสุขภาพจิต เปิดบริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตทางโทรศัพท์ตลอด 24ชั่วโมง หลังพบคนไทยร่วม 10ล้าน มีปัญหาสุขภาพจิต ฆ่าตัวตาย-ซึมเศร้า คาดเปิดใช้ต้นปีหน้า

 

นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า  กรมสุขภาพจิตร่วมกับโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ  (HITAP) ประเมินว่า มีผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตที่สำคัญทั้ง 8กลุ่ม ความผิดปกติทางจิตเวชจากแอลกอฮอล์ ความผิดปกติทางจิตเวชจากสารเสพติด โรคซึมเศร้า  โรคจิต ความผิดปกติทางพัฒนาการและพฤติกรรมในเด็กโรคลมชัก โรคสมองเสื่อม  การทำร้ายตนเองและฆ่าตัวตายจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือประมาณ 10  ล้านคนทั่วประเทศ แต่เข้าถึงบริการเพียง 8แสนคนทั่วประเทศ คิดเป็นร้อยละ 8

         

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า เนื่องจากบุคลากรด้านสุขภาพจิต โดยเฉพาะจิตแพทย์  พยาบาลจิตเวช ที่จำเป็นสำหรับรองรับปัญหาด้านสุขภาพจิตมีจำนวนจำกัด ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ส่งผลให้ผู้มีปัญหาสุขภาพจิตไม่สามารถเข้าถึงบริการที่เหมาะสม  ซึ่งที่ผ่านมา กรมสุขภาพจิตได้ริเริ่มจัดบริการให้การปรึกษาทางโทรศัพท์  ผ่านสายด่วนสุขภาพจิต (HotLine 1323)  เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่มีความเครียด ความทุกข์ใจ ไม่สบายใจ  และพบว่า สถิติจากการให้บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตทางโทรศัพท์ผ่านสายด่วน  1323ของกรมสุขภาพจิต ในรอบ 3ปีที่ผ่านมา มียอดผู้ใช้บริการทั้งสิ้น  352,886ราย  ปัญหาที่พบมากที่สุดเป็นปัญหาด้านสุขภาพจิตและโรคทางจิตเวชซึ่งการจัดบริการดังกล่าวยังไม่มีงบประมาณรองรับ ประกอบกับกรมสุขภาพจิตมีความต้องการที่จะพัฒนาระบบให้คำปรึกษาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายผู้ป่วยและระดับความต้องการ  เช่น ผู้ที่มีความวิตกกังวลจากปัญหาโรคทางกายเรื้อรัง  โรคร้ายแรงอย่างผู้ป่วย HIV โรคมะเร็ง  และกลุ่มผู้ป่วยที่เกิดจากพฤติกรรมสุขภาพ จึงได้ร่วมมือกับ  สปสช. เพื่อที่จะพัฒนาโครงการบริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตทางโทรศัพท์ตลอด  24ชั่วโมง โดยทำเป็นระบบ Call  Center ที่จะบริการให้คำปรึกษาทั่วไป และส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญ กรณีที่เป็นการให้คำปรึกษาที่ซับซ้อนขึ้น ซึ่ง call center  ระบบใหม่นี้สามารถให้บริการได้ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2555

        

ด้านนพ.วินัย  สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)  กล่าวว่า ในแง่สิทธิประโยชน์ในการรับบริการปรึกษาและบริการให้คำปรึกษา เป็นบริการที่เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบ UC ที่ใช้กับผู้ป่วยกลุ่มต่างๆ เช่น HIV  มะเร็ง สุขภาพกายและสุขภาพจิตอยู่แล้ว เช่น ในปัจจุบัน ผู้ป่วย HIV  ได้รับบริการให้คำปรึกษาโดยอาสาสมัคร(VCT ; Volunteer Counselingand  Testing) จากความร่วมมือของ สปสช.  และกรมสุขภาพจิตในครั้งนี้ จะทำให้ประชาชนหรือผู้ป่วยระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสามารถเข้าถึงบริการปรึกษาที่มีคุณภาพมากขึ้น รวมทั้งยังสามารถที่จะช่วยป้องกันการฆ่าตัวตายจากโรคซึมเศร้า และโรคทางจิตเวชอื่นๆ ได้

 

Source : News Center / Thairath / VoiceTV (Image)