วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

กกต. ลงมติ 4-1ให้ 'จตุพร' พ้นสภาพส.ส.

กกต. ลงมติ 4-1ให้ 'จตุพร' พ้นสภาพส.ส.

กกต.เสียงข้างมากมีมติ 4 ต่อ 1 ชี้ขาด 'จตุพร' สิ้นสุดความเป็นส.ส. เหตุไม่ไปเลือกตั้งวันที่3ก.ค. -ส่งให้ประธานสภายื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาชี้ขาดต่อไป

 

ที่ประชุมกกต.ได้นำกรณีของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เข้าพิจารณาหลังจากที่คณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงข้อกฎหมายกรณีคุณสมบัติการเป็นส.ส.ของนายจตุพร สิ้นสุดลงหรือไม่ เนื่องจากไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554  ทำให้ขาดจากความเป็นสมชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งในการประชุมกรณีดังกล่าวนี้เป็นการประชุมลับของกกต.

 

นายสมชาติ เจศรีชัย รองเลขาธิการรักษาการเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมกกต.ได้มีมติ 4 ต่อ 1 เห็นว่า นายจตุพร ขาดจากความเป็นสมาชิกภาพความเป็นส.ส. ตามมาตรา 106 (4) และ (5) จึงสมควรที่ส่งเรื่องไปให้ นาย สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัย ความสิ้นสุดลงสมาชิกภาพความเป็นส.ส.

 

สำหรับความเห็นของกกต.ใน 4 คนที่มีความเห็นให้ส่งเรื่องไปยังโดย 2 คน มีความเห็นว่า เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานต่อไปเนื่องจากยังมีปัญหาโต้เถียงกันว่าการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองของนายจตุพรสิ้นสุดลงตามพ.ร.บ.พรรการเมืองมาตรา 20 (3) จะส่งผลให้สมาชิกภาพของความเป็นสมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามมาตรา 106 หรือไม่ ถ้าสิ้นสุดจะสิ้นสุดลงเมื่อใดจึงเห็นควรส่ง

         

ส่วนอีก 1 ใน 2 คน มีความเห็นว่า เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานต่อไปเนื่องจากยังมีปัญหาโต้เถียงกันว่าการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองของนายจตุพร สิ้นสุดลงตามพ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 20 (3) จะส่งผลให้สมาชิกภาพของความเป็นสมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามมาตรา 106 หรือไม่ ถ้าสิ้นสุดจะสิ้นสุดลงเมื่อใดจึงเห็นควรส่ง

 

ส่วนอีก 1 คน ที่เห็นว่าควรส่งไปประธานสภา เนื่องจากรัฐธรรมนูญได้กำหนด คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้มิสิทธิที่ลงสมัครส.ส.ในมาตรา 101 และมาตรา 102 โดยยกเว้นบุคลที่มีลักษณะต้องห้าม มิให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งมาตรา 100 ( 3) ซึ่งในประเด็นนี้คณะอนุกรรมการไต่สวนเห็นว่าจะต้องนำเอาพ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 20 ประกอบมาตรา 19 และมาตรา 8  มาขยายความเป็นสมาชิกภาพส.ส.สิ้นสุดลง ตามมาตรา 106

 

กกต.อีก 1 คนเห็นว่า ไม่เห็นว่าจะต้องส่งศาล เนื่องจากตามมาตรา 101(3) ของรัฐธรรมนูญกำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ในวันสมัครรับเลือกตั้งเท่านั้น กำหนดว่า จะต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคกาเมืองพรรคเดียวเป็นเวลาติดต่อกันนับจนถึงวันเลือกตั้ง แม้ในวันเลือกตั้งบุคคลดังกล่าวถูกขังโดยหมายของศาลก็หาทำให้บุคคลนั้นขาดสมาชิกภาพความเป็นส.ส. ตามมาตรา 106 แต่อย่างใดไม่ เนื่องจากเป็นข้อยกเว้นตามมาตรา 102 (3) ประกอบมาตรา 100 (3) ของรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ยังเห็น ว่ามาตรา 101(6) ยังกำหนดให้นำคุณสมบัติอื่น ตามที่บัญญัติไว้ในพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. มาใช่บังคับเท่านั้น อีกทั้งนายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ก็ยังได้มายืนยันว่านายจตุพรยังคงเป็นสมาชิกพรรคอยู่ ดังนั้นนายจตุพร จึงมิได้ขาดจากการเป็นสมาชิกภาพความเป็นส.ส. แต่อย่างใด

 

         

อย่างไรก็ตาม นางสดศรี สัตยธรรม กกต.เปิดเผยว่า ตนมีความเห็นเป็นเสียงข้างน้อย  1 เสียง ที่เห็นว่าไม่ต้องส่งศาล เพราะเห็นว่า นายจตุพรจะเข้าลักษณะตามมาตรา 106 ถ้าจะนำเอากฎหมายของพ.ร.บ.พรรคการเมือง มาใช้ประกอบการพิจารณา ตนก็เห็นว่า ยังมีความขัดกันของกฎหมายอยู่

 

Source :  News Center / Naewna / VoiceTV  (Image)