ครม.งดเก็บภาษีนำเข้าชิ้นส่วน - เครื่องจักรรถยนต์

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีนำเข้าเครื่องจักร รถยนต์ และชิ้นส่วนรถยนต์ เพื่อเยียวยาผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่โรงงานต่างๆ ต้องเผชิญกับภาวะน้ำท่วม โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม ถึงวันที่ 30 มิถุนายน ปีหน้า   การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน เนื่องจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระรามเก้า หลังมีอาการอาหารเป็นพิษ ทำให้โครงการเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยด้านโครงสร้างพื้นฐาน (กคฐ.) และโครงการช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ด้านคุณภาพชีวิต(กคช.) จำนวน 203 โครงการ วงเงินงบประมาณกว่า 19,0000 ล้านบาท ที่จะนำเข้าพิจารณาในวันนี้ ไม่มีการพิจารณา คาดว่า จะนำเข้าสู่การพิจารณาได้ในวันอังคารหน้า ภายหลังการประชุม นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงมติ ครม. ว่า ครม.เห็นชอบตามมาตรการด้านภาษีศุลกากรที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยและฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรม โดยมาตรการดังกล่าว คือ การยกเว้นการจัดเก็บภาษีอากรจากการนำเข้าเครื่องจักร ส่วนประกอบและอุปกรณ์เครื่องจักร รวมทั้งการนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูป เพื่อทดแทนการผลิตในประเทศชั่วคราว หลังจากที่บางโรงงาน อาทิ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้ามอเตอร์ จำกัด ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม นอกจากนั้น ครม.ยังเห็นชอบให้ยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ เพื่อเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย โดยครอบคลุมถึงโรงงานผลิตรถยนต์ที่แม้จะไม่ได้ประสบกับภาวะน้ำท่วม แต่ได้รับผลกระทบจากชิ้นส่วนขาดแคลน เนื่องจากโรงงานผลิตชิ้นส่วนถูกน้ำท่วม   ทั้งนี้ผู้ได้รับสิทธิ์ ได้แก่ ผู้ประกอบการที่มีสถานประกอบการในพื้นที่ประสบอุทกภัย ตามที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหรือผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศ โดยให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เป็นผู้อนุมัติและออกหนังสือการนำเข้า โดยผู้นำเข้าเครื่องจักร รถยนต์และชิ้นส่วนดังกล่าวต้องแสดงหนังสืออนุมัติทุกครั้ง โดยให้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีอากรนำเข้า มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2554 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2555 ด้านนายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุถึงมาตรการเยียวยาประชาชนที่บ้านและรถได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยอาจมีการพักชำระหนี้และลดค่างวด รวมถึงงดค่าธรรมเนียม หากมีการส่งค่างวดล่าช้า โดยในบางกรณีอาจมีการพิจารณาให้ปรับโครงสร้างหนี้ นอกจากนั้นในส่วนของการซ่อมบ้าน จะให้การไฟฟ้านครหลวง เข้าไปดูแลความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า และให้สมาคมธุรกิจรับซ่อมบ้าน เป็นตัวกลางในการดูแลเรื่องค่าซ่อมบ้าน รวมถึงราคากลางและการจัดหาวัสดุ พร้อมมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา เพื่อส่งคนที่มีความรู้เข้ามาช่วยเพิ่มเติม นอกจากนั้นจะมีการกำหนดราคากลางในการซ่อมรถด้วย   ทั้งนี้ประชาชนที่เดือดร้อนสามารถโทรเข้ามาขอความช่วยเหลือที่สายด่วน สคบ. 1166 หรือสายด่วนทำเนียบรัฐบาล 1111   Produced by VoiceTV

URL: http://news.voicetv.co.th/business/24479.html