วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

นิคมอุตฯเริ่มกิจการแล้ว39.57%

นิคมอุตฯเริ่มกิจการแล้ว39.57%

กระทรวงอุตสาหกรรม รายงานความคืบหน้าการก่อสร้างเขื่อนป้องกันอุทกภัยรอบนิคมอุตสาหกรรม 7 แห่งต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พร้อมระบุขณะนี้มีโรงงานที่ประกอบกิจการแล้ว 328 ราย จากโรงงานทั้งหมด 838 ราย

 

นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม รายงานผลการดำเนินงานการให้ความช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรม และการสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในภาตอุตสาหากรรม ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ว่า การดำเนินการฟื้นฟู เยียวยานิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรม 7 แห่งที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดปทุมธานี ขณะนี้มีโรงงานที่ประกอบกิจการแล้ว 328 ราย คิดเป็นร้อยละ 39.57 ของโรงงานทั้งหมด 838 ราย และการดำเนินการฟื้นฟูโรงงานขนาดใหญ่ และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี ที่ประสบอุทกภัย ซึ่งตั้งอยู่นอกเขตนิคมอุตสาหกรรม ขณะนี้มีโรงงาน สถานประกอบการอุตสาหกรรมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และวิสาหกิจชุมชน ได้เปิดดำเนินการแล้ว 1 พัน 9 ราย คิดเป็นร้อยละ 86.29 ของสถานประกอบการทั้งหมด

 

ขณะที่ความคืบหน้าการก่อสร้างเขื่อน ป้องกันอุทกภัยกับนิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรม โดยนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จะสร้างเขื่อนความยาว 11 กิโลเมตร ใช้งบประมาณการก่อสร้างกว่า 728 ล้านบาท คาดว่าจะเสร็จสิ้นในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ /สวนอุตสาหกรรมบางกระดี ก่อสร้างเขื่อนความยาว 8.5 กิโลเมตร ใช้งบประมาณกว่า 272 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภานในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ /เขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ ก่อสร้างเขื่อนความยาว 77.6 กิโลเมตร ใช้งบประมาณกว่า 2 พัน 2 ร้อยล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 30 กันยายนนี้ / นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ก่อสร้างเขื่อนยาว 13 กิโลเมตร ใช้งบประมาณกว่า 500 ล้านบาท กำหนดเสร็จสิ้นในวันที่ 31สิงหาคมนี้ / สวนอุตสาหกรรมนวนคร ก่อสร้างเขื่อนยาว 18 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 700 ล้านบาท กำหนดเสร็จสิ้นในวันที่ 31สิงหาคมนี้ /และนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ก่อสร้างเขื่อนยาว 13 กิโลเมตร  ใช้งบประมาณ 400 ล้านบาท  โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31สิงหาคมนี้เช่นกัน

 

Produced by Voice TV