การแขวนคอผู้ที่มีความคิดเห็นที่แตกต่าง กลายเป็นร่องรอยและหลักฐานชิ้นสำคัญ ที่สะท้อนความรุนแรงจากการปลุกปั่น เมื่อ 36 ปีที่แล้ว ในช่วงเหตุการณ์ 6 ตุลา การแขวนคอผู้ที่มีความคิดเห็นที่แตกต่าง และถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ กลายเป็นร่องรอยและหลักฐานชิ้นสำคัญ ที่สะท้อนความรุนแรงจากการปลุกปั่น และทำร้ายกันและกันของคนไทยเมื่อ 36 ปีที่แล้ว ในช่วงเหตุการณ์ 6 ตุลา ซึ่งคนเดือนตุลาระบุว่า มันกำลังมีเค้ารางที่จะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย 36 ปีที่แล้ว เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 และยังคงถูกพูดถึงเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ในการประกาศผลรางวัลภาพถ่ายพูลิตเซอร์ ในปี 2520 ภาพถ่ายชุด 6 ตุลา 2519 ส่งผลให้นายนีล อูเลวิช (Neal Ulevich ) ช่างภาพชาวอเมริกันจากสำนักข่าวเอพีในขณะนั้น ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ ในสาขา Spot News Photography ภาพถ่ายชุดนี้ และชื่อของประเทศไทยโด่งดังอีกครั้งเพราะเมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ toptenz.net มีการจัดอันดับ "10 ภาพถ่ายช็อกโลก" โดยภาพชุดเหตุการณ์ 6 ตุลา ช็อกโลกในลำดับที่ 8 ของเว็บไซต์ เหตุการณ์แขวนคอ ผู้มีความคิดเห็นแตกต่าง ในช่วง 6 ตุลา 2519 ไม่ได้มีเพียงบุคคลในภาพนี้เท่านั้น จุดเริ่มของการแขวนคอ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่24 กันยายน ในปีเดียวกัน นายวิชัย เกษศรีพงษา และนายชุมพร ทุมไมยพนักงานการไฟฟ้านครปฐม และสมาชิกแนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ถูกซ้อมจนเสียชีวิตระหว่างติดโปสเตอร์ประท้วงต่อต้านพระถนอมและศพถูกนำไปแขวนคอที่ทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ตำบลพระประโทน อำเภอเมืองจังหวัดนครปฐม ซึ่งขณะนั้นตำรวจสรุปสำนวนคดีว่าเกิดจากเหตุผิดใจกับคนในที่ทำงาน จากเหตุการณ์นี้ ส่งผลสะเทือนมีการชุมนุมเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิตและต่อต้านจอมพลถนอมกิตติขจรมากยิ่งขึ้น หนึ่งในวิธีการประท้วง คือการแสดงละครกรณีนี้ในวันที่ 4 ตุลาคม 2519 ที่ลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์โดยชุมนุมนาฏศิลป์และการละคร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นที่มาให้นายอภินันท์บัวหภักดี และกลุ่มที่แสดงละคร ถูกตั้งข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทั้ง ๆ ที่พวกเขาแสดงละครเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพนักงานการไฟฟ้า และเมื่อถึงวันที่ 6 ตุลาคม 2519 กลุ่มกระทิงแดง ตำรวจตระเวนชายแดน ทหารลูกเสือชาวบ้าน กระทิง ล้อมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และระดมยิงกระสุนใส่นักศึกษาในมหาวิทยาลัย เมื่อมีผู้หนีตาย วิ่งออกมาพวกเขาถูกทำร้ายและนำไปแขวนคอที่ท้องสนามหลวง ความรุนแรงทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะผู้ล้อมปราบ เชื่อว่า นักศึกษาและประชาชนในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นคอมมิวนิสต์ ที่จะมาล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งสอดรับกับข้อความในเฟซบุ๊กของนายอภินันท์บัวหภักดี ที่เขาระบุว่าในฐานะคนที่เคยโดนทำร้ายด้วยกฏหมายมาตราที่ว่าด้วยพระมหากษัตริย์ และพระราชวงศ์อย่างไม่เป็นธรรม ด้วยการใส่ร้ายป้ายสี เขาตั้งคำถามว่าการล่าชื่อเพื่อให้แก้ไขมาตรา 112 ของคณะนิติราษฎร์เป็นสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย และวิธีการแก้ไขก็ระบุไว้ในกฎหมายทำไมฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย จึงต้องกล่าวหา ใส่ร้ายป้ายสี หลอกลวงคนทั้งประเทศ ว่าคณะนิติราษฎร์ มีแผนการณ์ ที่จะโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเขาไม่เห็นว่าคณะนิติราษฎร์ จะมีแนวคิดล้มสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไร แต่ฝ่ายที่ต่อต้าน กำลังกระทำการอย่างที่คุ้นเคย คือการใส่ร้ายป้ายสีหลอกลวงประชาชน เพื่อสร้างความรู้สึกโกรธแค้น ชิงชัง เหมือนการกล่าวหานายปรีดีพนมยงค์ ลอบปลงพระชนม์ รัชกาลที่ 8 กรณี หมิ่นพระบรมเดชานุภาพของเขาและกรณีของคณะนิติราษฎร์ ที่กำลังเป็นเหยื่อรายล่าสุด Produced by Voice TV |